“ทิพานัน” จวก “ธนาธร-ปิยบุตร” ล่าชื่อเลิก “ม.112” ฝ่าฝืนรธน.ชี้เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ภายใต้รัฐธรรมนูญไทย
เมื่อวันที่ 7 พ.ย.น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ “คณะก้าวหน้า” ที่มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นประธาน และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นเลขาธิการ ได้รณรงค์ให้ประชาชนลงชื่อในเว็บไซต์ เพื่อเรียกร้องให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ว่า เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ภายใต้รัฐธรรมนูญไทย จึงน่าแปลกใจที่คณะก้าวหน้าที่มีนายปิยบุตร เป็นเลขาธิการซึ่งอ้างว่าเชี่ยวชาญกฎหมายรัฐธรรมนูญจะขาดความรู้ในเรื่องนี้ นายปิยบุตรอย่าทำตัวให้สังคมสงสัยว่ารู้ทั้งรู้กฎหมายอยู่เต็มอก แต่ต้องการโหนกระแสเสียงผู้กระทำผิด ม. 112 หาเสียงให้พรรคพวกตนเองในช่วงที่จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างนั้นหรือ
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า การที่นายธนาธรและคณะก้าวหน้ากล่าวอ้างว่าต้องยกเลิก ม.112 อย่าปล่อยให้ผู้ได้รับผลกระทบจาก ม.112 และประชาชนต้องต่อสู้โดยลำพังนั้น ต้องถามว่าประชาชนที่นายธนาธรกล่าวถึงคือใคร เขาหลงเชื่อใคร เขาสนับสนุนแนวคิดที่ยุงยงของใคร จนกลายเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก ม.112 แล้วผู้ยุงยงนั้นก็แสดงเป็นพิธี เป็นพักๆ ว่าจะไถ่โทษไถ่ความผิดให้ ทุกครั้งที่โผล่หน้าไปก็เป็นการกระทำที่โหนกระแสเสียงผู้กระทำผิด ม.112 เข้าตำราชงเองกินเองทั้งสิ้น
สิ่งที่สังคมสงสัยมากสุดคือ นายปิยบุตรก็รู้วิธีวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่ผิด ม.112 แสดงให้เห็นว่ามีเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ได้โดยที่ไม่ต้องยกเลิก หรือแก้ไขในมาตรา 112 เลยได้ แต่สิ่งเหล่านี้นายปิยบุตรกลับไม่เคยให้ความรู้ผู้สนับสนุนกลุ่มการเมืองของตัวเองให้รู้จักขอบเขตในการใช้เสรีภาพในการแสดงออกโดยไม่ฝ่าฝืน ม.112 แต่กลับทำทีเป็นทองไม่รู้ร้อน กับผู้สนับสนุนแนวคิดของตนหรืออาจเพราะว่าอยากให้มีคนผิด ม.112 มากๆ จะได้มีน้ำหนักพอที่กระพือการยกเลิก ม.112 ใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นเป็นการกระทำที่หน้าไม่อายอย่างยิ่ง
หากนายธนาธรต้องการคืนอนาคตให้สังคมไทยจริงๆ อย่างที่กล่าวอ้าง นายธนาธรและคณะก้าวหน้าควรยกระดับบรรทัดฐานของสังคมให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างสันติ โดยให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้สนับสนุนในการใช้สิทธิ และเสรีภาพอย่างมีขอบเขต ไม่ใช้สิทธิของตนเองเกินส่วนจนกระทบสิทธิของผู้อื่น เรียนรู้ว่าคนเท่ากันโดยการเคารพและฟังความคิดเห็นต่างซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อแผ่นดินนี้มากกว่าการสนับสนุนให้มีการยกเลิกกฎหมาย ม.112 ที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ”