ม็อบเปลี่ยนสถานที่ชุมนุมเป็นแยกปทุมวัน ย้ำชุมนุมต่อต้านระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตย ขณะที่ตร.จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อควบคุมสถานการณ์และพร้อมใช้กฎหมายเต็มรูปแบบ
เมื่อวันที่14 พ.ย. เฟซบุ๊ก แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้โพสต์ว่า ตำรวจปิดทุกทางเข้าออกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยทุกทาง เจอกัน แยกปทุมวัน ! เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดเส้นทางเข้าออกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยทุกเส้นทาง และมีเจตนาที่จะใช้ความรุนแรง รวมถึงพกอาวุธจริงเข้ามาในพื้นที่ชุมนุม
โดยก่อนหน้านี้ได้นัดหมายชุมนุมเพื่อต่อต้านระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และย้ำว่าไม่ใช้การชุมนุนพื่อการไล่ประยุทธ์ ไม่ใช่การยกเลิก 112 ไม่ใช่การปฏิรูปฯ ไม่ใช่การล้มล้างฯ แต่เป็นการต่อสู้เพื่อยืนยันว่าประเทศนี้ต้องปกครองด้วยระบอบที่คนทุกคนเสมอหน้าเท่าเทียมกัน นี่คือการต่อต้านระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตยในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายนนี้เวลา 15.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเคลื่อนไปสนามหลวง
ด้านพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงว่า จัดเตรียมกำลังหลายส่วนทั้งด้านการข่าวของผู้ที่เข้ามาร่วมทำการชุมนุมในวันนี้, ฝ่ายปฏิบัติการใช้กำลังรักษาความสงบเรียบร้อย รวมถึงจัดตั้งจุดคัดกรองไม่ให้มีการนำเอาอาวุธหรือสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ นอกจากนี้มีกำลังกองหนุนเตรียมความพร้อมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้ รวมถึงมีชุดเคลื่อนที่เร็วหากมีการก่อเหตุบริเวณโดยรอบเพื่อจับกุมบังคับใช้กฎหมาย มีตำรวจจราจรดูแลบริเวณที่มีการชุมนุม และพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน
นอกจากนั้นตำรวจจะพยายามใช้การเจรจาขอไม่ให้มีการเคลื่อนขบวน ทั้งนี้ไม่อยากให้มีการเคลื่อนขบวนเพื่อป้องกันเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น หากกลุ่มผู้ชุมนุมยังดื้อดึงเคลื่อนขบวนตำรวจจะใช้วิธีการบังคับใช้กฎหมาย แต่หากมีความวุ่นวายก็ต้องให้ดำเนินการยกระดับ ส่วนเรื่องมีการใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางนั้น หากอยู่ในกรอบก็ไม่มีการใช้อาวุธดังกล่าว จะดูตามสถานการณ์หากมีการรื้อสิ่งกีดขวาง มีการใช้ความรุนแรงก็ต้องมีการพิจารณาไปตามสถานการณ์