‘กรณ์”ประกาศขอเป็นกระบอกเสียงคนภูเก็ต ยก 3 ข้อเรียกร้อง จี้ครม.สัญจรแก้ปัญหาค้างคาในภูเก็ต เพื่อนำไปสู่เมืองการท่องเที่ยวระดับโลก
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้ใช้ชีวิตใน จ.ภูเก็ต สิ่งที่น่าดีใจคือนักท่องเที่ยวมากขึ้น หาดป่าตองเริ่มคึกคัก และจากการพูดคุยกับผู้ประกอบการชาวภูเก็ตหลากกลุ่ม เราเห็นตรงกันว่าภูเก็ตคือเมืองแห่งศักยภาพของประเทศไทยที่จะเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกได้ ซึ่งหมายความว่าคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ของคนภูเก็ต รวมถึงรายได้เข้าประเทศโดยรวมดีกว่านี้ได้อีกมาก โดยเวลานี้หลายปัญหาของ จ.ภูเก็ต รอการแก้ไข อีกทั้งส่วนใหญ่อุปสรรคมาจากระบบราชการที่ช้าและไม่ยืดหยุ่นตามบริบทที่เกิดขึ้นในพื้นที่ นอกจากนี้ จ.ภูเก็ต น่าจะเป็นเมืองที่รวบรวมจำนวนคนที่รอบรู้และเข้าใจอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไว้มากที่สุดในโลก ดังนั้น เมื่อคนที่รู้บวกกับคนที่ใส่ใจเป็นคนภูเก็ต แล้วทำไมการกำหนดยุทธศาสตร์และการตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวกับ จ.ภูเก็ต ยังอยู่ที่อำนาจส่วนกลางที่กรุงเทพฯ
หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวอีกว่า ในเมื่ออำนาจยังรวมศูนย์อยู่ที่กรุงเทพฯ การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรในวันที่ 15-16 พ.ย.นี้ จึงยังสำคัญต่ออนาคตของ จ.ภูเก็ต ซึ่งมีหลายเรื่องที่ตนขอเป็นกระบอกเสียงแทนคนภูเก็ตไปถึงรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้มีการทบทวนและรีบตัดสินใจ เพื่อช่วยให้เฮือกสุดท้ายของผู้ประกอบการใน จ.ภูเก็ต ไม่สูญเปล่า โดยตนขอยก 3 ข้อเรียกร้องที่ฝากไปถึงรัฐบาล คือ 1.ปัญหาใบอนุญาตโรงแรมที่กำลังทำให้ธุรกิจที่พักขนาดเล็กหมดแรงและกำลังจะตายไป ซึ่งตอนนี้มีโรงแรมใน จ.ภูเก็ต เปิดขายห้องพักมากกว่า 10,000 แห่ง แต่โรงแรมขนาดเล็กที่มีใบอนุญาตถูกต้องมีจำนวนไม่ถึง 800 แห่ง ทั้งที่โรงแรมขนาดเล็กคือท่อลำเลียงทำให้เม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวกระจายเงินไปยังหลายธุรกิจ รัฐบาลจึงควรเร่งออกมาตรการให้โรงแรมขนาดเล็กสามารถเปิดได้อย่างถูกกฎหมาย
นายกรณ์ กล่าวว่า 2.การเข้าถึงแหล่งทุนที่ยากหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เพราะระเบียบหลายอย่างไม่ยืดหยุ่นพอกับสถานการณ์จริง จึงขอเสนอให้มีกองทุนเฉพาะที่ตนขอเรียกว่า Restart Phuket Fund ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะกระจายเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารแห่งประเทศไทยไปถึงผู้ประกอบการให้ได้ฟื้นฟูธุรกิจอีกครั้ง โดยเงินยังมีและอยู่ในอำนาจของรัฐบาลที่จะทำได้ 3. อยากให้รัฐบาลเร่งตัดสินใจลงทุนในโครงการต่างๆ เกี่ยวกับระบบสาธารณูปโภคและระบบขนส่งมวลชน ทั้งระบบรางและโครงข่ายถนน เพื่อรองรับการเติบโตของ จ.ภูเก็ต ในอนาคต อย่าให้ประเด็นการเมืองหรือความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมืองทำให้การพัฒนายืดเยื้ออีก นอกจากนี้ต้องเร่งแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งและปัญหาขยะที่จะต้องทำให้ จ.ภูเก็ต เป็นกรีน ซิตี้
“สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไขและตัดสินใจลงทุน เพื่อนำภูเก็ตไปสู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ภาคเอกชนภูเก็ตมีความพร้อมเป็นอย่างมากในการลงทุนและมีความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาเมือง ผู้บริหารประเทศต้องตามให้ทันและมองภาพรวม อนาคตของภูเก็ตไม่ใช่แค่คนภูเก็ตได้ประโยชน์ เพราะนอกจากเป็นหน้าเป็นตาให้ประเทศในฐานะ world-class destination แล้ว ภูเก็ตยังเป็นแหล่งรายได้สำคัญที่กระจายรายได้และโอกาสไปยังพื้นที่ใกล้เคียงและแรงงานจากนอกพื้นที่อีกนับแสนคน ภูเก็ตเป็นทั้งภาพลักษณ์และขุมพลังทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ผมขอฝาก ครม.สัญจรไว้ให้ตั้งใจพิจารณาโครงการต่างๆ เพื่อฟื้นฟูและสร้างความเข้มแข็งให้ภูเก็ตอย่างเร่งด่วน” นายกรณ์ กล่าว
