รปช. เลือก “เอนก” เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ย้ำเป็นพรรคเล็ก-กลาง ที่มีคุณภาพ ขณะที่“สุเทพ” ชี้เลือกตั้งครั้งได้ส.ส. 15-30 คนจะทำให้ได้เข้าไปได้บริหารกระทรวงอื่นด้วย
เมื่อวันที่ 21 พ.ย.64 ที่อาคารหอประชุมใหญ่ (BTU Hall) มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2563 โดยการประชุมดังกล่าวมีนายอเนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เป็นประธานการประชุม และได้รายงานการดำเนินกิจการของพรรคและผลงานด้านต่าง ๆ ของกระทรวงให้สมาชิกพรรคได้รับทราบด้วย
หลังจากที่ประชุมได้เลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ รวม 7 คน ประกอบด้วย นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นหัวหน้าพรรค นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เป็นเลขาธิการพรรค น.ส.จุฑาฑัต เหล่าธรรมทัศน์ เหรัญญิกพรรค นายดนุช ตันเทิดทิตย์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค ดร.พัชรินรุจา จันทโรนานนท์ น.ส.ยอดขวัญ ชุมวระ นายพิรสุต จันทรานุวัฒน์ กรรมการบริหารพรรค นอกจากนั้นยังมีการเลือกคณะกรรมการจริยธรรมและวินัยของพรรค รวม 5 คน ประกอบด้วยนายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง นายวีระชัย คล้ายทอง พล.ต.ท.อภิชาติ บุญศรีวิโรจน์ พล.ต.ต.ธนนท์ สิงหรา ณ อยุธยา และ พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์
นายเอนก กล่าวภายหลังรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคว่า หลังจากที่จะมีการเตรียมพรรคสู่การเลือกตั้งในช่วงเวลา 1 ปี ต่อจากนี้ไป เรามีเวลา 1 ปีเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของพรรค ซึ่งเรามีผลงานในช่วงที่ร่วมเป็นรัฐบาลในช่วง 2 ปีเศษที่ผ่านมา โดยเป้าหมายจะเป็นพรรคขนาดเล็กขนาดกลางที่มีคุณภาพ เป็นพรรคของประชาชนโดยประชาชน และเพื่อประชาชน เพราะเราปกครองในระบอบประชาธิปไตยซึ่งต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ปรึกษาและผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เปิดเผยว่า ขอเป็นตัวแทนสมาชิกพรรคต้อนรับหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ทั้งนี้ความคิดที่เราจะสร้างพรรคการเมืองที่เป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริงเป็นความคิดที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะการตั้งพรรคการเมืองตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันมีจำนวนมาก แต่พรรคการเมืองที่เป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริงนั้นหายาก
โดย 40 กว่าปี ที่อยู่กับการเมือง หวังเห็นการเมืองที่ดีขึ้น แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คาด และเชื่อว่าตอนนี้คนไทยจำนวนมากหวั่นวิตกกับการเมือง เพราะภาพนักการเมืองตามข่าวต่างๆ ไม่เหมาะสม ถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนพลังของความวิตกกังวลเป็นความสร้างสรรค์ มาสร้างพรรคการเมืองของประชาชน ที่ทำเพื่อประชาชนจริงๆ ไม่ใช่ประโยชน์ของพรรคหรือประโยชน์ของนักการเมือง หาการเลือกคราวหน้าได้รับเลือกตั้ง 15-30 คน นอกจากนายอเนกจะได้กลับไปดำรงตำแหน่งรมว.อว.แล้วยังจะได้บริหารกระทรวงอื่นด้วย