“เทพไท” เสนอแก้ “พ.ร.ป.เลือกตั้ง” ให้นับคะแนนรวมที่อำเภอ ดัดหลังพวกซื้อเสียง
วันที่ 24 พ.ย.64 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์คลิปใน Facebook ส่วนตัวว่า หลังจากรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมได้มีผลบังคับใช้แล้วจำเป็นจะต้องมีการยกร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญขึ้นมาอย่างน้อย 2 ฉบับคือ พ.ร.ป.เกี่ยวกับพรรคการเมือง และ พ.ร.ป.เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งมีการยกร่างขึ้นมาจากหลายส่วน ทั้ง กกต.พรรคการเมืองต่างๆ ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ได้นำเสนอต่อสังคมให้ได้รับรู้ และแสดงความคิดเห็นกัน
ส่วนตัวขอเสนอความเห็นเกี่ยวกับการนับคะแนนการเลือกตั้ง ลงใน พ.ร.ป.การเลือกตั้ง ส.ส.ด้วย เพราะการเสนอให้มีการนับคะแนนรวมกันที่จุดว่าที่ว่าการอำเภอในเขตเลือกตั้ง กำหนดให้อำเภอละ1แห่ง ถ้าเขตเลือกตั้งใดมี2อำเภอ ก็ใช้จุดนับคะแนน2แห่ง ถ้ามี 3 อำเภอ ก็ใช้จุดนับคะแนน 3 แห่ง เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ที่ใช้ผู้นำท้องถิ่นเป็นหัวคะแนน เดินซื้อเสียงจากชาวบ้าน ถ้าหากยังมีการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งประจำหมู่บ้าน ก็สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการซื้อเสียงของผู้สมัครได้ ทำให้บรรดาหัวคะแนน และประชาชนผู้ใช้สิทธิ์ที่ขายเสียง ก็ไม่กล้าที่จะหักหลัง ไม่เลือกคนซื้อเสียง กลัวจะเป็นอันตราย จากลุ่มอิทธิพลของคนซื้อเสียง แต่ถ้าเป็นการนับคะแนนรวมกันที่อำเภอ ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า หน่วยเลือกตั้งใดเลือกผู้สมัครคนใดมากน้อยแค่ไหน ก็จะทำให้ผู้สมัครที่ต้องการซื้อเสียงก็ไม่กล้าลงทุนซื้อเสียงอีก เพราะไม่มีหลักประกันว่า จะซื้อเสียงได้เข้าเป้าตามความต้องการ และประชาชนที่ถูกซื้อเสียง ก็สามารถที่จะรับเงินแล้วไม่เลือกก็ได้ มาตรการนี้จะเป็นการดัดหลังนักการเมืองซื้อเสียง ให้หมดสิ้นไปจากระบบการเมืองไทย
ส่วนการกลัวว่าการนับคะแนนรวมที่อำเภอ จะมีการเปลี่ยนหีบเลือกตั้ง ระหว่างขนส่งหีบนั้น สามารถแก้ปัญหาได้โดยให้พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัคร สามารถใช้สิทธิ์ส่งผู้สังเกตการณ์ประจำหน่วยเลือกตั้ง ติดตามลำเลียงหีบบัตรไปส่งที่จุดนับคะแนนประจำอำเภอได้ และการป้องกันการเปลี่ยนหีบคะแนนเลือกตั้ง สามารถทำได้ง่ายกว่าการซื้อเสียง ที่กำลังระบาดอย่างหนักไปทั่วประเทศในขณะนี้
ผมขอเสนอให้การนับคะแนนรวมกันที่จุดเดียวกัน ใช้กับการเลือกตั้งผู้บริหาร และสมาชิกสภาท้องถิ่นด้วย ทั้ง อบจ. เทศบาล หรือ อบต.ด้วย ถ้าหากรัฐบาล พรรคการเมืองทุกพรรค มีความจริงใจในการแก้ปัญหาการซื้อเสียง อย่างจริงจัง ก็ต้องสนับสนุนให้มีการบัญญัติการนับคะแนนรวมไว้ในกฎหมาย เพื่อป้องกันการซื้อเสียง และเป็นการดัดหลัง หรือแก้เผ็ดนักการเมืองที่ซื้อเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ