“คุณหญิงสุดารัตน์” นำคณะไทยสร้างไทย ประชุมร่วมสมาพันธ์สมาคมอัญมณีฯ หนุนการสร้างรายได้ให้ประเทศเพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนโควิด480,000 ล้าน เป็น 800,000 ล้านต่อปี ตั้งเป้ายกเลิกภาษีมูลค่าเพิ่มที่เก็บซ้ำซ้อน และกฎหมายที่กดทับศักยภาพ
ที่สมาพันธ์ สมาคมอัญมณี เครื่องประดับ และสิ่งมีค่า (ประเทศไทย) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้อำนวยการ คณะอำนวยการและพัฒนาพรรคไทยสร้างไทยพร้อมทีมนโยบายเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย ได้เข้าประชุมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ถึงแนวทางการพัฒนา อุตสาหกรรม อัญมณีและเครื่องประดับไทย ให้ทำรายได้เข้าประเทศได้มากขึ้น โดยมีนายสมชาย พรจินดารักษ์ ประธานสมาพันธ์สมาคมอัญมณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่า(ประเทศไทย) และกรรมการสมาคมให้การต้อนรับ
โดยทางสมาพันธ์อัญมณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่าแห่งประเทศไทย เกิดขึ้นจากการรวมตัวของผู้ค้า และแปรรูปอัญมณีทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาอุตสาหกรรมอัญมณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่าได้สร้างมูลค่าแก่เศรษฐกิจไทยเกือบ 5 แสนล้านบาทต่อปี แต่ในปี 2563 มูลค่าการส่งออกลดลงเกือบ 40% จากปีก่อน
เนื่องจากความสามารถในการแข่งขันลดลง เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงกว่าประเทศคู่แข่งขัน โดยเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่มที่เก็บซ้ำซ้อน ขณะที่รัฐบาลของประเทศคู่แข่ง เข้ามาอุดหนุนอุตสาหกรรมอัญมณีโดยการลดภาษี นอกจากนี้ ภาครัฐยังมองผู้ประกอบการเป็นผู้ร้าย เช่น ธุรกิจทองคำ ที่รัฐเพ่งเล็งการนำเข้าส่งออกทองคำ เพราะรัฐเกรงว่าสร้างความผันผวนแก่ค่าเงิน ซึ่งไม่เป็นความจริง
ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่าตนเล็งเห็นศักยภาพของอุตสาหกรรมอัญมณีไทย ว่าเป็นที่ 1ของโลก และถ้าพรรคไทยสร้างไทยได้เป็นรัฐบาล จะสนับสนุนกลุ่มอัญมณีอย่างจริงจัง ตั้งเป้าสร้างรายได้เพิ่มให้ถึง 800,000 ล้านบาท ต้องเร่งแก้ปัญหาอุปสรรค
โดยเฉพาะการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ซ้ำซ้อน ต้องถูกแก้ไข เพื่อให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนที่ลดลง จนสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ รวมทั้งการส่งเสริมด้านการตลาด และการเข้าถึงแหล่งทุน โดยพรรคไทยสร้างไทยมีนโยบายจัดตั้ง ”กองทุน SMEs“ เพื่อสนับสนุน ให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน
“พรรคไทยสร้างไทย จะสนับสนุนทุกวิถีทาง ให้ผู้ประกอบการทุกกลุ่ม กลับมาประกอบธุรกิจให้ได้โดยเร็วที่สุด แข็งแรงที่สุด พร้อมขจัดอุปสรรคในการทำมาหากิน โดยเฉพาะกฎหมายที่ล้าสมัย และกลไกรัฐราชการที่ขวางกั้นการทำมาหากินของผู้ประกอบการทันที”