“สุเทพ” มั่นใจใช้ข้อเท็จจริงสู้คดีทุจริตโรงพัก 396 แห่ง ยืนยันทำตามมติครม.ยันไม่ได้ยุ่งการจัดซื้อจัดจ้าง ตั้งข้อสังเกตเหตุใด ป.ป.ช.ฟ้องเอง เพราะอัยการสั่งไม่ฟ้อง
เมื่อวันที่ 30 พ.ย.64 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงแหน่งทางการเมือง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้เดินมาศาลฏีกาแผนกอาญาผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง สนามหลวง ตามนัด ที่ป.ป.ช.ส่งตัวฟ้องศาล กรณียื่นฟ้องในคดีทุจริตสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่งทั่วประเทศ และแฟลตตำรวจ 163 หลัง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 5,200 ล้านบาท
โดยนายสุเทพยืนยันต่อสู้คดีด้วยข้อเท็จจริง และชี้ว่าถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ชี้แจงข้อกล่าวหาการทุจริตโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ หลัง ป.ป.ช.สอบสวนคดีมานายนับ 10 ปี ส่งผลต่อชื่อเสียง ทั้งที่ได้ต่อสู้เรื่องต้านการทุจริตมาตลอด แต่มาถูกกล่าวหาการทุจริตเสียเอง และยืนยันข้อต่อสู้คดีว่าไม่ได้กระทำการใดที่ผิดจากมติ ครม.และการสั่ง การและ พิจารณาต่างๆ อยู่บนพื้นฐานของข้อกฎหมายระเบียบปฏิบัติ ในฐานะที่กำกับดูแล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตัดสินใจในแง่ของนโยบาย การปฎิบัติตามอำนาจหน้าที่ และไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง โดยอนุมัติตามที่มีการเสนอได้ในราคาต่ำกว่าราคากลางกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่แต้งง่าผ่านการประมูลชอบตามกฎหมายแล้วจึงได้ลงนาม ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์อะไรกับบริษัท การสร้างสถานีตำรวจไม่แล้วเสร็จเป็นเรื่องของการบริหารจัดการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นายสุเทพ ยังกล่าวว่า สำนักงานอัยการสูงสุดเห็นว่าไม่สามารถจะดำเนินคดีนี้ได้ จึงไม่เห็นด้วย และคดีวันนี้ ป.ป.ช.ยื่นฟ้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกว่าเมื่อถึงขั้นตอนที่ ป.ป.ช. พยานหลักฐานมาแสดงต่อศาลและเมื่อเปรียบเทียบกับพยานหลักฐานของตัวเองจะเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ยังมั่นใจในข้อเท็จจริงและกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ที่จะได้พิสูจน์ศาลสูงสุดของประเทศ โดยไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์การทำงานและกระบวนการไต่สวนของ ป.ป.ช.
ส่วนนายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความ เปิดเผยว่าเตรียมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินประเมินมูลค่าที่ 1 ล้านบาท มายื่นประกันตัว ส่วนราคายื่นประกันตัวนั้นอยู่ที่ดุลย์พินิจของศาลว่าจะตีราคาวงเงินเท่าไหร่