“ถาวร” ยอมรับเจ็บปวดคำวินิจฉัยศาลฯฟันว่าเป็นคนไม่ดี ไม่น่ารัก ข้องใจให้วิ.แพ่งอยู่เหนือรธน. เผย “ชวน” ให้กำลังทำการเมืองต่อ ลั่นขอตั้งหลักก่อน
วันที่ 9 ธ.ค.64 ที่รัฐสภา นายถาวร เสนเนียม อดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้ได้ไปสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม ที่พรรค เพื่ออำลา และได้เข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ในฐานะแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายชวนก็ได้ขอบคุณการทำหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมา โดยให้กำลังใจ พร้อมระบุว่ากรณีที่เกิดขึ้นเหมือนพระอาทิตย์ตกเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ขึ้นใหม่ ขอให้ทำหน้าที่ของการเป็นนักการเมืองต่อไป ทั้งนี้ คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าผู้ที่เป็นส.ส.ต้องได้รับความไว้วางใจ มัวหมองไม่ได้ จึงถือว่าส.ส.ทั้ง 5 คน ขาดจากความเป็นส.ส. ในส่วนของตนนั้นตามข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้เขียนล้อไปกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 โดยเฉพาะข้อบังคับข้อที่ 9(7) ซึ่งไปตรงกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(6) ที่ระบุว่าผู้ที่เคยต้องคำพิพากษาและถูกคุมขังตามหมายศาลให้ขาดจากการเป็นส.ส. เท่ากับว่าขณะนี้ตนได้ขาดจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว
“ผมรู้สึกเจ็บปวดกับคำวินิจฉัยที่ออกมา ว่าผมเป็นคนไม่ดี จึงขอถามไปยังศาลว่าใช้ดุลยพินิจอย่างไรในการวินิจฉัย ผมตั้งข้อสังเกตประเทศไทยปกครองโดยรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด ดังนั้น กฎหมายรัฐธรรมนูญจึงต้องอยู่เหนือประมวลกฎหมายวิธีพิจารณความแพ่งที่ศาลนำมาอ้าง ว่าขังผมโดยชอบ เพราะฉะนั้นถ้าวิธีพิจารณาความแพ่ง โดยอ้างว่าขังโดยชอบ ผมโต้แย้ง แต่ผมต้องรับโทษตามที่ท่านพิจารณา แต่ผมไม่ยอมรับในความภาคภูมิใจในคำวินิจฉัย หากจะพูดแบบภาษาชาวบ้านคือ การเขียนหักมุมของท่านไม่สวยเลย ไม่น่ารักเลย ไม่น่าเชื่อถือ ท่านเอาวิธีพิจารณาความแพ่งอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ ไม่มีที่ไหนในโลกเขาทำกัน ดังนั้น ขอฝากไปยังเพื่อนในพรรคประชาธิปัตย์ว่า ผมต้องขอโทษพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่รวมจิตวิญญาณของบรรพบุรุษ และผมเสียดายที่ไม่ได้ทำหน้าที่ในสภาต่อไป” นายถาวรกล่าวและว่า ยืนยันจะทำหน้าที่เป็นนักการเมืองต่อไป ส่วนจะอยู่ในบทบาทใดขอตั้งหลักก่อน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้ท้อใจ แต่กลับทำให้ฮึกเหิมมากกว่าเดิม
เมื่อถามถึงกรณีการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดสงขลา เขต 6 นายถาวร กล่าวว่า ตนได้ขาดจากการเป็นสมาชิกพรรค จึงขอวางตัวนิ่งเฉย ทั้งนี้ ในส่วนของน.ส.สุภาภรณ์ กำเนิดผล รองนายกอบจ.สงขลา และภรรยาของนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ นั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นบุคคลที่ได้รับความนิยมในพื้นที่ ขณะที่ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เป็นลูกของหัวคะแนนของตน ถือเป็นพี่น้องกัน และตนก็มีความสนิทสนมกับทั้งสอง แต่พื้นที่สงขลาไม่ใช่สมบัติของนายถาวร ฉะนั้น ถ้ามีการแข่งขันแบบมีน้ำใจนักกีฬา การเลือกตั้งก็คงสนุก อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โดยเฉพาะผู้ตรวจการเลือกตั้ง ขอให้ควบคุมการเลือกตั้งด้วยความโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม