“ก้าวไกล” รุมถล่มรายงานประจำปี 63 จี้ถาม “ปัญญา” แจ้งวุฒิการศึกษาไม่จริง ขอให้ชี้แจง “โรม” ไร้ความเชื่อมั่น หลังพบพฤติกรรมเกี่ยวข้องทุจริตซื้อคอมพ์ 13 ล. ด้าน”เลขาฯ ศาลรธน.” ยันศาลตัดสินยึดกฎหมาย ไม่บิดเบือน-สร้างกฎหมายขึ้นมาเอง สวนกลับคดีล้มล้างปกครองต้องกระทำเยี่ยงคนในชาติ ไม่ใช่คนนอกชาติ ชี้แก้ม.112 ไม่เคารพกฎเกณฑ์-สถาบันเบื้องสูง “วิโรจน์” ท้วงละเมิดอำนาจฝ่ายนิติบัญญัต ชี้ แก้ม.112 เป็นศักดิ์และสิทธิ์ของสภาฯ
วันที่ 9 ธ.ค.64 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณารับทราบรายงานประจำปี 2563 ของศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีการอภิปรายจากส.ส.พรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะส.ส.พรรคก้าวไกล ที่ตั้งคำถามต่อการทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในการวินิจฉัยในคดีที่ผ่านมา โดยเฉพาะคดีล้มล้างการปกครอง และอำนาจของรัฐสภาต่อการการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
โดยนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่มีความสุจริตหรือไม่ เนื่องจากพบว่าในสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มีประเด็นทุจริตจัดซื้อคอมพิวเตอร์มูลค่า 13 ล้านบาท โดยอดีตข้าราชการระดับสูงในฝ่ายบริหาร ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และขอให้ผู้ที่เข้าชี้แจงตอบในกรณีดังกล่าวว่าเกิดขึ้นจริงหรือไม่
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขอให้ชี้แจงประเด็นคุณวุฒิด้านการศึกษาของนายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ระบุไว้ในเอกสารแนบท้ายของกรรมาธิการวิสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากที่สังคมออนไลน์ตั้งข้อสังเกตว่าประวัติการศึกษา ในเรื่องหลักสูตรการศึกษา ปี 2530 จบการศึกษาระดับปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยเคนซิงตัน แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเมื่อค้นข้อมูลจากวิกิพีเดีย พบว่าถูกสั่งปิด เพราะประเด็นปัญหามาตรฐานทางวิชาการ การให้ปริญญา เมื่อปี 2539 และมหาวิทยาลัยดังกล่าวปิดถาวร เมื่อปี 2546 พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ามหาวิทยาลัยดังกล่าวได้รับการรับรองจาก กพ. มีความน่าเชื่อถือ และได้รับความรับรองจากสากลอย่างไร
“ศาลต้องชี้แจงว่าได้จบจากสถาบันนี้จริงหรือไม่ เพราะบางเอกสารไม่ระบุว่าจบจากสถาบันดังกล่าว ดังนั้นสภาฯต้องเปิดพื้นที่ให้ชี้แจง และในปี 2526 การศึกษาปริญญาโท ระบุว่าจากยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ ดีทรอยต์ ประเทศสหรัฐอเมริกามีข้อสังเกตว่าเอกสารผิดหรือไม่ และมีเพียงชื่อของ ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟดีทรอยต์เมอร์ซี่ ทั้งนี้มีคนบอกว่าน่าจะพิมพ์เอกสารผิด และน่าจะเป็นยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ มิชิแกน หรือไม่ หากจบจาก ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟดีทรอยต์เมอร์ซี่ การค้นข้อมูลไม่พบหลักสูตรที่นายปัญญาระบุไว้ จึงต้องให้พื้นที่ชี้แจง” นายวิโรจน์ อภิปราย
ด้านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดนายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ กรณีทุจริตจากการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้เสนอราคาเกี่ยวกับการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ จำนวน 281 เครื่อง ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มูลค่า 13 ล้านบาท และพบรายละเอียดว่ามีการกักขังหน่วงเหนี่ยวภายในศาล และเรื่องนี้มีความเกี่ยวพันกับนายปัญญา ที่ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการฯ ก่อนดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นผู้สั่งให้มีการกักขังหน่วงเหนี่ยวในศาล
“นายปัญญาทำงานใกล้ชิดกับนายเชาวนะ ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะนายปัญญาได้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่จึงหลุดคดีนี้ หากผมเป็นนายเชาวนะ คงอิจฉานายปัญญา ที่ไม่ถูกชี้มูล แต่นายเชาวนะ ถูกชี้มูล ทั้งนี้กรณีที่เกิดขึ้นผมไม่สรุปว่าผิดจริงหรือไม่ แต่กรณีนี้กระทบต่อความเชื่อมั่นศาลรัฐธรรมนูญ ที่ผมมองว่าไม่เหมาะสมที่จะมาตัดสินของประชาชน”นายรังสิมันต์ อภิปราย
ต่อมานายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ชี้แจงว่า การวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยึดกฎหมาย โดยไม่บิดเบือนหรือสร้างกฎหมายขึ้นมาเอง
สำหรับคดีล้มล้างการปกครองนั้น การคิดเปลี่ยนแปลงเรื่องสำคัญของบ้านเมือง ต้องระลึกถึงความเป็นชาติ กระทำเยี่ยงคนในชาติ ไม่ใช่คนนอกชาติ รวมถึงต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อผลร้ายในประเทศที่จะกระทบต่อคนทุกคน ไม่ใช่เกิดแค่คนกลุ่มน้อย หากพิจารณาประวัติศาสตร์ พบว่าการพัฒนาการเมืองการปกครองไทย ได้ปรับและแก้ให้เป็นไปตามยุคสมัย เป็นการทำหน้าที่ของผู้ที่มีหน้าที่และรับผิดชอบต่อบ้านเมืองถึงดำรงความเป็นชาติเป็นไทย ส่วนการแก้ไขมาตรา 112 นั้นประจักษ์ชัดว่าต้องการนำไปสู่การไม่รักษากฎเกณฑ์พื้นฐานที่เคารพสักการะสถาบันพระมหากษัตริย์ สาระสำคัญของการกระทำผู้ถูกร้องขัดรัฐธรรมนูญ อยู่บนพื้นฐานความเป็นธรรม และศาลวินิจฉัยอาศัยหลักกฎหมายและข้อเท็จจริงประกอบไม่ใช่เกิดจากเจตนาอย่างอื่นตามที่วิจารณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายเชาวนะ ชี้แจงต่อคำวินิจฉัยคดีล้มล้างการปกครองนั้น พบว่า ส.ส.พรรคก้าวไกล ลุกประท้วงอยู่เป็นระยะ เพราะมองว่าเป็นการอภิปรายืดเยื้อ และพบว่าคำชี้แจงนั้นทำเหมือนเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งที่สถานะของนายเชาวนะไม่ใช่
โดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประท้วงเพราะอภิปรายวนเวียนซ้ำซาก ตนขอเตือนให้ระวังการอภิปรายที่แทรกแซงอำนาจนิติบัญญัติ ต่อกรณีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นศักดิ์และสิทธิ์ของฝ่ายนิติบัญญัติ อย่าก้าวล่วง
ทำให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ฐานะประธานที่ประชุม วินิจฉัยว่า การชี้แจงของนายเชาวนะสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น ตามที่มีข้อกล่าวหาจากการอภิปรายส.ส.นั้นไม่ได้จำกัด แต่ขอให้บริหารเวลา และการชี้แจงของเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอะไรที่ผิดข้อบังคับ
นายเชาวนะ ชี้แจงต่อว่า ส่วนกรณีที่กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีทุจริตการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ มูลค่า 13 ล้านบาทว่า ตนไม่สามารถพูดในรายละเอียดได้ เพราะเป็นการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.โดยเฉพาะ ซึ่งสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมีผลประเมินความโปร่งใสอยู่ในเกรดเอ และเป็นมาตรฐานของความโปร่งใส ส่วนประวัติการศึกษา ของนายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยว่า การจบการศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างประเทศที่เปลี่ยนชื่อ หรือ เปลี่ยนแปลงกิจการ เป็นข้อมูลหรือความเคลื่อนไหวสถานะของสถาบันนั้นๆ ไม่อยู่ในวิสัยที่ติดตามได้ ตนทราบว่าวุฒิการศึกษาในประเทศด้านต่างๆ มีหลายวุฒิการศึกษา และเป็นการรับรองโดยวิทยฐานะโดยชอบตามกฎหมายย เพื่อความเป็นธรรมที่นายปัญญาไม่อยู่ในที่ประชุมขอให้เห็นว่าอะไรที่เป็นคำถามหรือสงสัยยุติได้ด้วยผลการพิจารณาของกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมแล้ว