“ดร.พี่เอ้” อุบทีมงานรองผู้ว่าฯกทม. เผยสเปคนักสู้ นักเปลี่ยนแปลง รู้จริงไม่ยึกยัก ไม่สนถูกโซเชียลถล่มแค่รับน้อง มั่นใจชาวกทม.รู้จักมากขึ้นชนะแน่
วันที่ 14 ธ.ค.64 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงก้าวแรกของการลงพื้นที่ ว่า พื้นที่แรกตั้งใจจะไปกรุงเทพฯฝั่งธนบุรี เพื่อเยี่ยมประชาชนในเขตบางขุนเทียน บางบอน บางแค และดูปัญหาน้ำทะเลที่กัดเซาะในกทม. มากน้อยเพียงใด และทำไมวาระน้ำท่วมจึงเป็นเรื่องชี้ชะตากทม. ส่วนจะเป็นวันใดนั้นต้องประสานกับทีมงานในพื้นที่ก่อน ขณะที่การเปิดนโยบายจะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา เป็นเพียงการส่งสัญญาณเท่านั้นว่ากทม.ถึงเวลาต้องเปลี่ยน เพราะถ้าไม่เปลี่ยนอยู่ไม่ได้
เมื่อถามถึงทีมงานรองผู้ว่าฯกทม.จะออกมาเมื่อใดนายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ขอให้ใจเย็นๆเพราะยังมีเวลา เนื่องจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.คงไม่ใช่เร็วๆนี้ ต้องใช้เวลาคิดถี่ถ้วนให้ดี คิดอยู่ทุกวัน ส่วนคุณสมบัติของทีมรองผู้ว่าฯกทม.นั้น แน่นอนต้องเข้ามาเปลี่ยนกทม. ทำงานยึกยักแบบเดิมไม่ได้ รองผู้ว่าฯกทม.ทุกคนต้องมีภาพลักษณ์เป็นนักสู้และนักเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นสเปคแรก ที่สำคัญต้องมีความรู้จริงๆในด้านที่จะเข้ามาทำ ไม่ใช่ชี้ไปทางโน้นทางนี้สุดท้ายกลับมาทางเดิม แบบนี้ไม่ได้
เมื่อถามต่อว่ามีการดึงพลังโซเชียล เพื่อต้องการดึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มาเลือกใช่หรือไม่ นายสุชัชวีร์ ยืนยันว่าให้ความสำคัญกับประชาชนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ การเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ใช่การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. แต่เป็นการเลือกอนาคตของกทม.และประเทศ และเป็นช่วงสำคัญในการเปลี่ยนผ่านเจนเนอร์เรชั่น
เมื่อถามอีกว่ารัฐบาลส่งสัญญาณการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ช่วงกลางปี 65 เพียงพอต่อการลงพื้นที่หรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า หากเป็นจริงตามนั้น เรามีเวลา เพราะเคยประกาศแล้ว 1,600 ตารางกิโลเมตร เท่ากับ 1,600,000 ก้าว จะไปทุกเขตพร้อมกับว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) เพื่อพบประชาชน เรียนรู้ รับฟังปัญหา และหาทางแก้ไข ถือเป็นช่วงเวลาที่ดี
เมื่อถามถึงความมั่นใจในการสู้ศึกเลือกตั้ง ที่ครั้งนี้มีผู้สมัครจากพรรคอื่นลงแข่งขันด้วย นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ตนเตรียมตัวมา 30 ปี เป็น30 ปีที่รอคอย เป็น30ปีที่สะสมความรู้และประสบการณ์ทุกด้าน เพราะงานผู้ว่าฯกทม.เป็นงานที่มีลักษณะพิเศษ เพราะเป็นทั้งพ่อบ้านและนายช่างใหญ่ เชื่อมั่นว่าถ้าประชาชนรู้จักมากขึ้นแล้ว และรู้ว่าทำอะไรสำเร็จมาแล้ว ก็จะพิจารณาให้โอกาสตนเป็นผู้ว่าฯกทม.
เมื่อถามว่าทันทีที่เปิดตัวมีทั้งกระแสตอบรับที่ดีและมีการดิสเครดิตจะตั้งรับอย่างไร นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ตนเข้าใจเพราะชีวิตเปลี่ยนตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. และเดินเส้นทางสายอาสา เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องเตรียมตัวเตรียมใจ ถือเป็นการรับน้อง
เมื่อถามด้วยว่าการเลือกตั้งส.ส.ครั้งที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีส.ส.ในกทม.แม้แต่คนเดียว การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ทำให้กังวลหรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า เรื่องการเมืองมีขึ้นมีลงเช่นเดียวกับต่างประเทศก็เป็นเช่นนี้ สัญญาณที่ตนและทีมผู้สมัครสก. รวมถึงที่พรรคประชาธิปัตย์ส่งไปนั้น ตนเห็นพลังการเปลี่ยนแปลง และเชื่อว่าประชาชนที่งอนพรรคอยู่จะกลับมาสนับสนุนพรรคอีกครั้ง