วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“ตูน-ลุงป้อม-หมอยง-ชวน-ธนินทร์” คว้า“บุคคลของสังคมแห่งปี 2564”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ตูน-ลุงป้อม-หมอยง-ชวน-ธนินทร์” คว้า“บุคคลของสังคมแห่งปี 2564”

“ซูเปอร์โพล” เปิดผลสำรวจ “บุคคลของสังคมแห่งปี 2564 ในใจประชาชน” พบ “ตูน บอดี้สแลม” นำโด่ง คนดีที่ช่วยเหลือผู้เดือดร้อน-ผู้ด้อยโอกาส ขณะที่ “ลุงป้อม” เป็นบุคคคลแห่งปีที่แก้ปัญหาปากท้องปชช. พ่วงดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ ส่วน “หมอยง” เป็นคุณหมอของสังคมแห่งปี

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.64 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจเรื่อง “บุคคลของสังคมแห่งปี 2564 ในใจประชาชน” กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศโดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,124 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 21-25 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา

เมื่อถามถึง คนดีของสังคม แห่งปี 2564 ที่มีบทบาทสำคัญช่วยเหลือผู้เดือดร้อน ด้อยโอกาส ระดมทุนบริจาคเพื่อความดีส่วนรวมของสังคม พบ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 ตูน บอดี้สแลม อาทิวราห์  คงมาลัย ร้อยละ 44.1 เพราะเป็นผู้จุดกระแสการช่วยเหลือ/แบ่งปันจากคนทุกระดับ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่า “คนไทยไม่ทิ้งกัน” ไม่หวั่นไหวในการทำความดี ช่วยเหลือผู้อื่น ยอมเสียสละทั้งแรงกายและแรงใจ

อันดับที่ 2 ได้แก่ ปวีณา  หงสกุล ร้อยละ 29.4 เพราะเป็นผู้ที่ช่วยเหลือผู้หญิงและเด็ก ด้านกฎหมาย ด้านการเงิน จุดประเด็นปัญหาสังคมให้เป็นประเด็นสาธารณะ และนำไปสู่การแก้ไข จนเกิดภาพจำว่า “แม่พระคนยาก โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็ก” เธอทำงานด้านนี้อย่างต่อเนื่อง เสมอต้นเสมอปลาย

และอันดับที่ 3 ได้แก่ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ร้อยละ 25.9 เพราะช่วยเหลือคนยากคนจน ผู้ตกทุกข์ได้ยาก โดยที่ผ่านมาผลงานลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้คนจนเข้าตากรรมการได้ใจ เพราะคำพูดที่แรง แต่ตรง จนเกิดภาพจำ นางฟ้าขาลุย ไม่หวั่นไหวจากคำปรามาสของผู้อื่นตั้งมั่นว่า การทำความดีจากความตั้งใจมั่น คือความงามของคนในสังคม

ตูน บอดี้สแลม

ที่น่าสนใจคือ คุณหมอของสังคมแห่งปี ช่วยวิกฤตโควิด พบ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 หมอยง ภู่วรวรรณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร้อยละ 39.9 เพราะเป็นแพทย์คนแรกที่ออกมาทำให้สังคมไทย รู้และเข้าใจเรื่องโควิด-19 และวัคซีน ส่งผลให้ประชาชนดูแลตนเองให้ปลอดภัย และเปลี่ยนจากความตระหนก เป็นความตระหนัก

อันดับที่ 2 ได้แก่ หมอเหรียญทอง แน่นหนา โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ ร้อยละ 36.0 เพราะเป็นแพทย์ในกลุ่มต้น ๆ ที่ออกตัวช่วยเหลือประชาชนผู้ติดเชื้อโควิดและจัดสรรพื้นที่ให้ผู้ป่วยหนัก รวมถึงได้ภาพจำของนายแพทย์ผู้ปกป้องรักษาสถาบันหลักของชาติ คนจริงพูดตรงไม่กลัวใคร

และอันดับที่ 3 ได้แก่ หมอนิธิ มหานนท์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร้อยละ 22.2 เพราะเป็นหมอที่ช่วยบริหารจัดการและคลี่คลายสถานการณ์เรื่องวัคซีนโควิด-19 ที่อธิบายเรื่องยากๆ ให้เข้าใจง่าย เช่น วิธีการจัดคิวการรับวัคซีนที่ไม่ซ้ำซ้อนกับทางราชการและช่วยเหลือคนเดือนร้อนชายขอบได้จริง เช่นคนงานต่างด้าว และทำให้การนำเข้าวัคซีนมีความคิดที่ชัดเจนและพูดตรงจากความรอบรู้ทางการแพทย์และการบริหารจัดการที่ดี

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ

นอกจากนี้ บุคคลแห่งปีที่ช่วยเหลือแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนและปัญหาสังคม หนี้นอกระบบ ที่ดินทำกิน แหล่งน้ำ และอื่น ๆ ลดความเดือดร้อนปัญหาปากท้องของประชาชน พบ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และรองนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 40.0 เพราะเป็นรองนายกฯ ที่ดูแลใส่ใจแก้ปัญหาด้วยตนเองโดยเฉพาะความเดือดร้อนทุกข์ยากของคนฐานราก เช่น หนี้นอกระบบ ที่ดินทำกิน ปัญหาค้ามนุษย์ เป็นปัญหาเรื้อรังยากต่อการแก้ไขแต่ พล.อ.ประวิตรฯเกาะติดใช้ความตั้งใจจริงทุ่มเทกำกับดูแลแบบกัดไม่ปล่อยจนช่วยเหลือเหยื่อขบวนการหนี้นอกระบบ จัดสรรที่ดินทำกินให้ประชาชนฐานรากจำนวนมาก และแก้ปัญหาค้ามนุษย์ ได้ผลที่น่าพอใจมากกว่าอดีต

อันดับที่ 2 ได้แก่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร้อยละ 36.4 เพราะเรื่องปากท้องเป็นความสำคัญอันดับแรก ๆ ของคนทุกระดับที่ถูกแก้ปัญหาแบบครบเครื่องทั้งเรื่องเกษตรและพาณิชย์ การตลาดนำการผลิต ดูแลสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรทั่วประเทศด้วยการทำงานแบบเข้าใจปัญหาและเกาะติดแก้ปัญหาของประชาชนฐานรากสำคัญของประเทศต่อเนื่อง

อันดับที่ 3 ได้แก่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร้อยละ 19.3 เพราะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญออกมาตรการเยียวยาความทุกข์ยากของประชาชนช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ที่เข้าใจบริบทสังคม ไม่พูดมากและทำงานทุ่มเท และเป็นลูกหม้อ สภาพัฒน์ ทำให้เข้าใจบริบทประเทศทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม ประกอบกับการเป็นคนดี เป็นข้าราชการที่ตรงที่ทุกคนเห็นมาโดยตลอด จึงได้รับความไว้วางใจ ข้อเสนอของ รมว.กค. จึงตอบโจทย์ ตรงใจ ตรงความเดือดร้อนของประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

เมื่อถามถึง บุคคลแห่งปี ที่เป็นหลักดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมและความมั่นคงของประเทศ พบ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 40.3 เพราะทำงานรักษาความมั่นคงของประเทศในทุกมิติทั้งเสาหลักของชาติ เหล่าทัพ และความมั่นคงในชีวิตของประชาชนที่สะสมมาจากประสบการณ์อันยาวนานและบารมีในเหล่าทัพในการบริหารความมั่นคงของชาติสู่การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนอันเป็นรากฐานสำคัญของความมั่นคงของประเทศ

อันดับที่ 2 ได้แก่ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ร้อยละ 27.3 เพราะเป็นผู้นำทางทหารในการต่อสู่กับความยากจนและต่อสู้กับความเดือดร้อนของประชาชน ความขัดแย้งของประชาชนไม่ใช่ศัตรูทหาร ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่าทุกครั้งที่ประชาชนเดือดร้อนทหารจะออกมาช่วยเหลือประชาชนในทุกเรื่อง เวลานี้ทหารสร้างความมั่นคงของประเทศ ด้วยการลงมือแก้ปัญหาประชาชน ทั้งเรื่องปากท้องและสาธารณูปโภค

และอันดับที่ 3 ได้แก่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร้อยละ 26.0 เพราะการปฏิรูปตำรวจเป็นเสียงเรียกร้องของสังคมมาโดยตลอด แต่การปฏิรูปตำรวจที่เป็นไปตามธรรมชาติเกิดขึ้นได้เช่นกัน คืออยู่ที่ความเป็นผู้นำที่ดีขององค์กรและบทบาทสำคัญในการควบคุมสถานการณ์ความไม่มั่นคงของประเทศการชุมนุมของกลุ่มผู้มีความขัดแย้งทางความคิดและความรุนแรงที่ถูกดำเนินการให้อยู่ภายใต้กระบวนการยุติธรรม

ชวน หลีกภัย

ที่น่าสนใจคือ บุคคลแห่งปี ที่เป็นผู้ใหญ่ ผู้มีบารมีทางการเมือง พบ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ร้อยละ 48.7 เพราะเป็นผู้อาวุโส พี่ใหญ่ทางการเมืองมืออาชีพ เป็นนักกฎหมายที่มีความลุ่มลึกและแม่นระเบียบจึงคุมเกมส์ในสภาได้อย่างละมุนละม่อม สามารถการใช้วาจาที่เชือดเฉือน สยบความวุ่นวายในสภาได้ทุกครั้ง ท่านชวนฯ สามารถใช้คำพูดที่นิ่มนวล กำราบ สส. ที่เกเรได้ราบคาบ เพราะอ้างกฎ ระเบียบ และข้อบังคับได้แม่นยำตีความถูกต้องชัดเจน

อันดับที่ 2 ได้แก่ พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและรองนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 32.6 เพราะภาพใหญ่ของการเมืองไทยมาจากกลุ่มอิทธิพลทางการเมืองที่หลากหลาย แต่บารมีของพลเอก ประวิตร ไม่ใช่เพิ่งเกิด แต่เพราะเป็นผู้มี connection หลายระดับ โดยเฉพาะในกองทัพทุกรุ่น การเมืองทุกมุ้ง จึงไม่แปลกที่ทุกคนยอมรับว่า พล.อ.ประวิตรเป็นผู้มีบารมีทางการเมือง ทั้งในพรรค พปชร. และพรรคร่วมรัฐบาล อาจพูดได้ว่า “ประวิตรมา ปัญหาหมด” สยบกลุ่มเฮี้ยนนักการเมือง จัดการพวกนอกลู่นอกทาง

และอันดับที่ 3 ได้แก่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ร้อยละ 17.9 เพราะภาพจำ มือปราบตงฉิน วีรบุรุษนาแก ที่ยังคงมีผลนำมาใช้ในทางการเมืองทำการเมืองให้สะอาดเป็นของขวัญปีใหม่ถูกใจประชาชนได้

ธนินท์ เจียรวนนท์ Cr : วิกิพีเดีย

นอกจากนี้ บุคคลแห่งปี เจ้าสัว นักธุรกิจ ที่ช่วยเหลือสังคม พบ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 นายธนินท์ เจียรวนนท์ ร้อยละ 50.6 เพราะเป็นผู้นำทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ของประเทศออกมาช่วยเหลือประชาชนช่วงวิกฤตโควิด-19 และวิกฤตเศรษฐกิจในหลายมิติ ทั้งโรงพยาบาลสนาม อุปกรณ์ทางการแพทย์และการบริหารจัดการวัคซีนและอื่น ๆ และเพราะมีความเชื่อมโยงทางการค้ากับจีนอย่างแนบแน่น จึงทำให้จีนช่วยไทย ทำธุรกิจ ครบวงจร ทั้งค้าปลีก ค้าส่ง และอื่น ๆ ที่ดี

อันดับที่ 2 ได้แก่ นายบัณฑูร ล่ำซำ ร้อยละ 24.6 เพราะเป็นนายทุนนายธนาคารที่ช่วยฟื้นฟูสภาพป่า รักษาทรัพยากรทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดี เป็นภาพจำที่ช่วยเหลือชาวบ้าน ไม่เอารัดเอาเปรียบและทำงานปิดทองหลังพระดูแลสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นในสังคมไทย

และอันดับที่ 3 ได้แก่ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ร้อยละ 22.2 เพราะ เป็นผู้นำทางธุรกิจที่สนับสนุนการช่วยเหลือสังคมในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังในช่วงวิกฤตความเดือดร้อนของประชาชน สร้างความสมดุลในการแข่งขันทางการค้าให้เป็นทางเลือกของประชาชนและสังคมที่มีการเข้ามาจากทุนต่างชาติและทุนภายในประเทศ

ดร.นพดล กรรณิกา

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า บุคคลแห่งปี 2564 ในผลการศึกษาครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่า สังคมไทยส่วนใหญ่ ยังเห็นการทำดี ทำประโยชน์ให้สังคมเป็นเรื่องสำคัญ ที่สังคมไทยยังให้การยอมรับ เห็นคุณค่าและยกย่องเชิดชู เห็นได้จาก  ยังมีคนดีของสังคม ที่พยายามผลักดัน ช่วยเหลือสังคมในความสามารถของเขาเองในทุกโอกาส  มีคุณหมอที่ ทุ่มเทเสียสละเป็นหลักและที่พึ่งของสังคม ยามที่ประชาชนสับสน ตื่นตระหนกจากโรคระบาดใหม่  มีผู้ใหญ่ใจดีที่คอยดูแล เป็นที่พึ่งแก้ปัญหาปากท้อง หนี้สินนอกระบบ น้ำและที่ดินทำกินในภาพรวม เพื่อช่วยให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ใกล้เคียงกัน  มีคนผู้ใหญ่ที่เป็นหลักของบ้านเมือง คอยดูแลความปลอดภัยส่วนรวมและความสงบเรียบร้อยของสังคม  มีนักการเมืองที่เป็นผู้ใหญ่และมีบารมีพอ เป็นที่พึ่งสร้างบรรทัดฐานที่ดีและจริยธรรมทางการเมือง  และมีเจ้าสัว ที่ได้ประโยชน์จากธุรกิจ ยังพอมีน้ำใจช่วยเหลือเจือจุนสังคมและส่วนรวมในโอกาสต่างๆ

“เชื่อว่า สังคมไทยยังมีคนดีอีกมากที่ปิดทองหลังพระ ทำดี ทำประโยชน์ให้สังคมและไม่ออกหน้า ซึ่งเราต่างต้องสนับสนุนและให้กำลังใจกันและกัน ไม่ด่าทอ ว่าร้าย เสียดสีกัน เพียงเพราะอคติ การแสดงความคิดเห็นต่างเชิงสร้างสรรค์ ถือเป็นเรื่องดีของสังคมในวิถีประชาธิปไตย ที่เราต่างต้องเดินหน้าพัฒนาสังคมและอยู่ร่วมกันในประเทศอันเป็นที่รักของเราทุกคน”ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img