“สมพงษ์” รับได้ฉายา”“ตกสวรรค์”ชี้วิพากษ์วิจารณ์เรื่องปกติ ระบุเก้าอี้ผู้นำฝ่ายค้านฯไม่สวยหรู ปัญหา-อุปสรรคอื้อ ย้ำตั้งใจลาออก หน.เพื่อไทย เปิดทางคนรุ่นใหม่ทำงาน ชู “ชลน่าน” เหมาะรับไม้ เหน็บ “บิ๊กตู่” ไม่เหมาะนายกฯ
วันที่ 27 ธ.ค.64 นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่สื่อมวลชนประจำรัฐสภามอบฉายา “สมพงษ์ตกสวรรค์” ให้ จากกรณีลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และพ้นจากตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรว่า ขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ยังให้เกียรติ และนึกถึง แม้จะพ้นจากตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านฯมาแล้ว ในฐานะนักการเมือง ย่อมต้องยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ แม้จะเป็นคำวิจารณ์ในเชิงลบก็ตาม คำว่า ตกสวรรค์ อาจจะไม่ตรงกับสถานการณ์ของตนเท่าไร เพราะการทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านฯนั้นก็ไม่ได้สวยหรูดั่งอยู่บนสวรรค์อย่างที่เข้าใจ โดยเฉพาะการทำงานในสภาฯชุดนี้ ที่มีปัญหาและอุปสรรคนานัปการต่อการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน หรือฝ่ายตรวจสอบ ที่ถูกปิดกั้นขัดขวางอย่างสิ้นเชิงจากฝ่ายรัฐบาลเสียงข้างมาก
“กรณีของผมน่าจะใช้คำว่า ขึ้นจากนรก มากกว่าตกจากสวรรค์ ด้วยอุปสรรคต่างๆต่อการทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ตลอดจนยอมรับข้อเท็จจริงในแง่ความเหมาะสมของผมต่อบทบาทหน้าที่ ซึ่งไม่ต่างจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ไม่มีความเหมาะสมกับการเป็นนายกฯในหลายประการ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ตอนนี้ก็เหมือนตกอยู่ในนรกเช่นกัน” นายสมพงษ์กล่าว
นายสมพงษ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ ลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทยอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยนั้น ขอยืนยันว่า การลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ที่ทำให้พ้นตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านฯนั้น เป็นความตั้งใจไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ก็พร้อมเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เข้ามารับภารกิจต่อนั้น ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีความเหมาะสม และสามารถทำงานได้ เหมือนอย่างที่สื่อมวลชนรัฐสภายกให้ นพ.ชลน่าน เป็นดาวเด่นในปีนี้ ส่วนตนและคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์ก็ทำหน้าที่สนับสนุนในแง่ยุทธศาสตร์ของพรรค และฝ่ายค้าน ตลอดจนสามารถทุ่มเทเวลาดูแลแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้มากกว่า