“เทพไท” ชี้ หมูแพง-ไข่ขึ้นราคา จี้รัฐแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน เข้าทำนองความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรกรัฐบาล
วันที่ 10 ม.ค.65 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัว ข้อความว่า สำหรับช่วงนี้ปัญหาปากท้องของประชาชนกำลังรุมเร้ารัฐบาลอยู่ นับตั้งแต่ปัญหาราคาหมูแพง ที่รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาให้ราคาลดลงไปได้ นอกจากการแนะนำให้ประชาชนไปบริโภคอาหารชนิดอื่นทดแทน เช่น บริโภคไก่ หรือบริโภคอาหารทะเล
ซึ่งเป็นการแก้ไม่ปัญหาไม่ตรงจุด เหมือนกับเกาไม่ถูกที่คัน เพราะความจำเป็นของประชาชนในการบริโภคอาหารแต่ละชนิด มีความจำเป็นแตกต่างกัน เช่นคนที่จะชอบกินขาหมู ก็จะไม่สมารถใช้ไก่มาทำข้าวขาหมูทดแทนได้ หรือคนที่เป็นโรคเก๊า จะไปให้กินไก่ ก็ยิ่งทำให้โรคเก๊ากำเริบขึ้น หรือคนที่แพ้อาหารทะเล ก็ไม่สามารถบริโภคอาหารทะเลได้ รัฐบาลก็ต้องเร่งหาแนวทาง ในการแก้ไขปัญหาราคาหมูแพงให้ถูกจุดโดยเร็วที่สุด
นอกจากปัญหาราคาหมูแพง ที่ยังไม่คลี่คลาย ก็เกิดปัญหาราคาไข่ไก่ขึ้นราคาขึ้นมาอีก เหมือนกับเป็นการซ้ำเติมปัญหาความปากท้องของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราคาไข่ไก่เปรียบเสมือนดัชนีวัดเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน เพราะไข่คืออาหารพื้นฐานของคนไทย ที่นิยมบริโภค ตั้งแต่คนจน ถึงมหาเศรษฐี เมื่อไข่ปรับราคาขึ้น ย่อมกระทบต่อชีวิตประจำวัน และปัญหาปากท้องของคนในระดับรากหญ้ามากที่สุด ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งแก้ไข อย่าให้ปัญหาราคาไข่แพง กลายเป็นประเด็นทางการเมืองไป
ในทุกยุคทุกสมัย ดัชนีชี้วัดของเศรษฐกิจปากท้อง ขึ้นอยู่ที่ราคาไข่ไก่ มักจะมีการเปรียบเทียบว่า ราคาไข่ไก่ในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีคนใด ไข่มีราคาเท่าใด มีราคาแพงกว่ากันอย่างไร จะมีการเปรียบเทียบราคาไข่ ตามชื่อของนายกรัฐมนตรีแต่ละยุคแต่ละสมัย เช่น ไข่ชวน,ไข่เติ้ง,ไข่จิ๋ว,ไข่แม้ว,ไข่หมัก,ไข่มาร์ค ฯลฯ ว่าไข่ใครแพงกว่ากันจะไม่มีการเปรียบเทียบ เฉพาะในยุคนายกรัฐมนตรี คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เท่านั้น ส่วนในปัจจุบันก็อาจจะเปรียบเทียบได้ว่า “ไข่ตู่ หรือ ไข่ลุงตู่” ราคาแพงใบละเท่าไหร่
อยากให้รัฐบาลได้เร่งแก้ปัญหาราคาหมูแพง ราคาไข่ไก่ปรับราคาสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาปากท้องที่กระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชนจริงๆ ก่อนจะกลายเป็นสินค้าการเมือง ที่อาจจะทำให้บางฝ่าย หยิบยกขึ้นมาเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล จนเกิดกระแส”แพงทั้งแผ่นดิน”ขึ้นมา จนเกิดผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลได้