“ก้าวไกล” จ่อยื่อญัตติด่วน ตั้งกมธ.เค้นข้อมูลปกปิดโรคระบาดหมู ชี้ต้องมีคนรับผิดชอบ ติงรบ.เยียวยา 1 แสนเท่ากับฆ่าตัวตาย
วันที่ 13 ม.ค..65 นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการอินไซด์รัฐสภา ว่า สัปดาห์หน้า เมื่อสภาฯ เปิดประชุม ส.ส.พรรคก้าวไกลจะเสนอญัตติด่วนเพื่อขอให้สภาฯ ตั้งกรรมาธิการเพื่อตรวจสอบและหาแนวทางแก้ไขต่อประเด็นปัญหาโรคระบาดในสัตว์ รวมถึงใช้เป็นกลไกเพื่อขอข้อมูลและรายละเอียดที่เชื่อว่ามีการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกร (เอเอสเอฟ) เกือบ 3 ปี และทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรได้รับผลกระทบ รวมถึงประชาชนผู้บริโภคเนื้อสุกรต้องซื้อเนื้อหมูราคาแพง อย่างไรก็ตามพบว่ามีเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรเสียหายกับการระบาดของโรคที่ไม่มีการควบคุมตั้งแต่การกระบาดในปี 2562 ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีการประกาศอย่างชัดเจน มากถึงแสนราย
“เรื่องดังกล่าวต้องมีคนรับผิดชอบ และกรมปศุสัตว์ต้องชี้แจง เพราะมีตัวอย่างจากฟาร์มผู้เลี้ยงหมูที่นำซากหมูที่เสียชีวิตเป็นปีไปตรวจในแล็ปของเอกชน ซึ่งพบว่าเป็นโรคเอเอฟเอฟ แต่แล็ปเอกชนไม่กล้ารายงานผลเพราะกังวลว่าจะมีปัญหากับกรมปศุสัตว์ สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการปกปิดข้อมูล”นายปดิพัทธ์ กล่าว
นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ส่วนมาตรการของรัฐบาลที่เตรียมเยียวยาผู้เลี้ยงสุกร โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ออกสินเชื่อวงเงินไม่เกิน 1 แสนบาทให้เกษตรรายย่อยกลับมาเลี้ยงใหม่ แต่ในภาวะที่โรคไม่สงบ เท่ากับเป็นการฆ่าตัวตาย การกลับมาเลี้ยงใหม่ ต้องทำโรงเรือนระบบปิด เชื่อว่าวงเงินไม่พอ การเลี้ยงหมูตามบ้าน กรมปศุสัตว์ต้องควบคุม นอกจากนั้นวัตถุดิบที่เกี่ยวข้อง ที่พบว่ามีต้นทุนเพิ่มขึ้นอีก 30% หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ร่วมมือกันเชื่อว่าการแก้ปัญหาจะล้มเหลว
“ส่วนที่มีผู้เสนอให้นำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศเพื่อลดราคาในตลาด ผมมองว่าต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในระยะยาว และต้องเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการนำเข้าที่กีดกันสินค้าจากต่างประเทศ เช่น โรคระบาด , สารเร่งเนื้อแดง ดังนั้นต้องหารือให้รอบคอบ หากรัฐบาลตัดสินใจไม่ดี แก้ปัญหาเฉพาะหน้าจะทำลายกลไกราคาหมูในประเทศไทยยาวนาน ผมไม่เห็นนายกฯ รมว.พาณิชย์ รมว.เกษตรไม่มีการประชุมที่ชัดเจน กังวลว่าจะโยนความรับผิดชอบไปยังข้าราชการ”นายปดิพัทธ์ กล่าว