“จุรินทร์” ขนทีมลุยดอนเมืองเยี่ยมตลาด ยันปมขัดแย้งภายใน พปชร.กระทบเสถียรภาพรัฐบาลแน่ เสียงหนุนรบ.แกว่งไม่ชัดเจน ปัดตอบเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ชี้ยุบสภาเป็นอำนาจนานกฯ
วันที่ 23 ม.ค. 65 ที่เขตดอนเมือง กทม.
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ พร้อมด้วย นายศิววงศ์ วงศ์พิชญา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. เขตดอนเมือง ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ที่ปรึกษารมว.มหาดไทย อดีต ส.ส. กทม. นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต ส.ส. เขตดอนเมือง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ น.ส.กัญณัฐฐ์ เฉลิมการนนท์ ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางเขน ว่าที่ร้อยตรีธนิตศักดิ์ ดารามั่น ผู้สมัคร ส.ก.เขตลาดพร้าว นายธราธพ ชาตรี ผู้สมัคร ส.ก. เขตหลักสี่ และนายพันธ์พิสุทธิ์ นุราช ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตบึงกุ่ม ร่วมกันลงพื้นที่ มอบถุงน้ำใจ ปชป. ให้กลุ่มเปราะบางที่ ชุมชนปิ่นเจริญ 2 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมตรวจเยี่ยมโครงการโมบาย “พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน” ซึ่งในการลงพื้นที่วันนี้มีพี่น้องประชาชนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมกับอวยพรให้นายจุรินทร์ได้เป็นนายกฯ อีกด้วย
นายจุรินทร์ กล่าวถึงกรณีที่มีหลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงเนื่องจากการที่ผลปาล์มมีราคาดี และอาจส่งผลต่อราคาน้ำมันพืชนั้น ว่า เรื่องนี้เป็นโจทย์สำคัญเพราะ 3 ฝ่าย มีความต้องการที่ยังย้อนแย้งกันอยู่ คือเกษตรกรชาวสวนปาล์มก็อยากขายปาล์มราคาสูงที่สุด แต่ถ้าราคาผลปาล์มสูงมาก ต้นทุนของโรงงาน โรงสกัด ที่จะไปผลิตน้ำมันปาล์มขวดเพื่อการบริโภคออกจำหน่ายก็จะสูงขึ้น ก็จะทำให้ราคาน้ำมันปาล์มขวดแพงขึ้น แต่เมื่อแพงขึ้นผู้บริโภคก็ไม่ต้องการบริโภคน้ำมันปาล์มแพง ต้องการให้ราคาลดลง ก็เลยขัดแย้งกัน ถ้าราคาต้องลดลงมามาก ก็แปลว่าผลปาล์มก็ต้องถูกกดราคาลงมามาก เกษตรกรก็เดือดร้อน เพราะฉะนั้นความพอดีมันอยู่ตรงไหน ให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มอยู่ได้ ผู้ประกอบการมีต้นทุนไม่สูงจนเกินไป สามารถจำหน่ายราคาที่กำหนดได้ ผู้บริโภคก็จะไม่เดือดร้อนมาก ซึ่งตนได้มอบกรมการค้าภายในไปดูแลและอีก 1-2 วัน จะมีการเชิญห่วงโซ่การผลิตทั้งหมด ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการโรงงานปาล์มดิบ โรงงานรีไฟน์ ผู้บริโภค ก็จะมาคุยกันทั้งหมดว่าจะหาข้อตกลงและยุติกันเพื่อให้ทั้ง 3 ฝ่ายอยู่ได้
เมื่อถามความเห็นถึงโค้งสุดท้ายในการเลือกตั้งซ่อม กทม. เขต 9 หลักสี่-จตุจักร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็น เพราะประชาธิปัตย์ไม่ได้ส่ง แต่สำหรับผู้สมัครของพรรคได้เตรียมไว้แล้วในการเลือกตั้งทั่วไป คือ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ซึ่งแม้เราไม่ได้เลือกตั้งซ่อม แต่ได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และหลังเลือกตั้งซ่อมแล้ว ตนจะได้ลงพื้นที่กับว่าที่ผู้สมัครอีก เพียงแต่ยังไม่อยากลงพื้นที่ตอนนี้ เดี๋ยวจะกลายเป็นกระทบการเลือกตั้งซ่อมที่พรรคอื่นเขาแข่งกันอยู่
เมื่อถามว่าพรรคมองผลโพลของนิด้าที่เกี่ยวกับการชนะเลือกตั้งซ่อมชุมพรและสงขลา ของพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์กล่าวว่า ผลสำรวจดังกล่าว สรุปว่าประชาธิปัตย์ชนะด้วย 2 เหตุผลหลัก คือ 1. เป็นเพราะพรรคประมาณ 70% 2. เป็นเพราะผู้สมัครของเราเด่นกว่า 30% ซึ่งเป็นแนวเดียวกับที่พรรควิเคราะห์ว่า สาเหตุที่เราได้รับชัยชนะนี้เกิดจากเหตุผลอะไร แต่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นพรรค 70 ผู้สมัคร 30 ที่เด่นกว่าผู้สมัครพรรคอื่นนั้น ขึ้นอยู่กับเสียงสวรรค์ของพี่น้องประชาชนที่มอบให้ เพราะไม่ว่าพรรคจะเด่นอย่างไร ผู้สมัครจะเด่นอย่างไร ถ้าพี่น้องไม่มาลงคะแนนให้โอกาสชนะมันก็ไม่มี
“ขอถือโอกาสขอบคุณพี่น้องชาวชุมพร กับสงขลาอีกครั้ง และวันที่ 29 ม.ค.65 ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมจะลงไปที่สงขลา เพื่อขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ที่ช่วยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และเพื่อไปยืนยันว่าพรรคก็จะกำกับดูแลผู้แทนของพรรคทั้ง 2 คนที่เป็นหน้าใหม่ ให้ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์แบบทั้งหน้าที่ในพื้นที่ และหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรต่อไปให้คุ้มค่ากับที่ประชาชนมอบความไว้วางใจให้” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
เมื่อถามว่า ก๊วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ และส.ส.20 คน ถูกขับออก นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นปัญหาภายในของพรรคพลังประชารัฐ ตนไม่ขอวิจารณ์ลึกลงไปในรายละเอียด แต่ถ้าถามว่ามีผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ ในภาพรวมก็ต้องยอมรับว่าอาจมีผลกระทบ แต่ทั้งหมดก็ต้องไปดูข้อเท็จจริงว่าในการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรว่าผลจะปรากฏออกมาอย่างไร รัฐบาลยังมีเสียงที่แน่นเหนียวกับรัฐบาลจำนวนเท่าไหร่ และฝ่ายค้านเหลือเท่าไหร่ ฝ่ายค้านเขาก็มีของเขาอยู่แล้ว แต่ทั้งหมดก็ต้องไปดูข้อเท็จจริงด้วยว่าสุดท้ายแล้วเสียงจะเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้คิดว่ายังแกว่งอยู่ ยังคาดการณ์เป็นข้อสรุปขั้นสุดท้ายยังไม่ได้ เพราะยังปรากฏข่าวที่ค่อนข้างสลับซับซ้อนว่าสุดท้ายแล้วเสียงที่อยู่กับรัฐบาลมีเท่าไหร่ เสียงที่คาดว่ายังไม่มีความแน่นอนนั้นมีจำนวนเท่าไหร่ ก็ต้องดูต่อไป
เมื่อถามว่าคาดการณ์จะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองภายในปีนี้หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุหรือไม่ หลายคนก็พยายามถามเรื่องยุบสภาว่าจะมียุบสภาหรือไม่ อันนี้ตนก็ยิ่งตอบไม่ได้ เพราะยุบสภาเป็นอำนาจท่านนายกฯ และประเทศไทยของเราส่วนใหญ่ถ้ายุบสภา ก็หมายความว่ามันจะต้องเกิดอุบัติเหตุ หรือเกิดปัญหาทางการเมือง ซึ่งขณะนี้มันก็ยังไม่เกิด แต่ถ้าเกิดมายุบตอนนี้มันจะมีปัญหาอีกข้อนึงตามมา ก็คือปัญหาเรื่องกฎหมายลูกที่ยังไม่มี เพราะฉะนั้นจะไปต่อได้อย่างไร ถ้าเกิดยุบสภามีแต่รัฐธรรมนูญ กฎหมายลูกที่จะเป็นตัวกำหนดกฎเกณฑ์ กติกา และการกำกับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมาถึงยังไม่ออกมาแล้วจะไปยังไง อันนี้ก็เป็นคำถามอยู่
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเตรียมรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไรในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล นายจุรินทร์กล่าวว่า จุดยืนประชาธิปัตย์นั้นมีความชัดเจนอยู่แล้วในเรื่องการทำงานกับรัฐบาล อย่างที่เคยย้ำไว้ เราเป็นสถาบันทางการเมือง เรารู้หน้าที่ดีว่า หน้าที่ของเราคืออะไรพรรคประชาธิปัตย์รู้ว่าอะไรคือหน้าที่ของเรา อะไรคือสิ่งที่เราควรทำ และอะไรคือสิ่งที่เราต้องทำ อันนี้ไม่ต้องกังวล และผมก็ยืนยันแล้วว่า ยุคนี้ประชาธิปัตย์ต้องเน้นเรื่องการทำหน้าที่ ทุ่มเท ทำงานหนักให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพราะเรามีเวลาจำกัด โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้ว่ารัฐบาลอยู่ได้ไม่เกินเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นต้องใช้เวลาที่มีอยู่จำกัดนี้ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชนให้ได้
