“เพชร กรุณพล”ชี้ดัชนี TI สะท้อนรัฐประหารปราบโกงไม่มีจริง ยิ่งนำไปสู่ทุจริตที่เฟื่องฟู เพราะตรวจสอบไม่ได้ ซัดรัฐบาลยิ่งอยู่นานยิ่งล้มเหลว
เมื่อวันที่ 27 ม.ค.65 นายกรุณพล เทียนสุวรรณ หรือ เพชร ผู้สมัคร ส.ส.เลือกตั้งซ่อมเขตจตุจักร-หลักสี่ เบอร์ 6 จากพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency : TI) ลดอันดับดัชนีการรับรู้ทุจริตของไทยให้อยู่ที่ 110 จาก 180 ประเทศ เป็นอันดับ 6 ของอาเซียน โดยในปีนี้ได้คะแนน 35 เต็ม 100 ลดจากปีที่แล้ว 1 คะแนน ว่า หนึ่งในข้ออ้างคลาสสิคของคณะรัฐประหารที่มีมาตลอด คือบอกว่ามาเพื่อปราบโกง ปราบการทุจริตคอร์รัปชั่น ในความเป็นจริงตั้งแต่มีการรัฐประหารเป็นต้นมา พัฒนาการความโปร่งใสของรัฐบาลมีทิศทางที่เลวร้ายมาตลอด ในปีนี้คะแนนความโปร่งใสยังลดลงอีก นอกจากทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศแย่ลงแล้ว ยังเป็นความสูญเสียด้านความน่าเชื่อถือในสายตานานาชาติ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจด้วย
รวมถึงถ้ามาดูอันดับในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน อันดับของไทยอยู่ต่ำกว่า 1.สิงคโปร์ 85 คะแนน 2.มาเลเซีย 48 คะแนน 3.ติมอร์-เลสเต 41 คะแนน 4.เวียดนาม 39 คะแนน 5.อินโดนีเซีย 38 คะแนน หลายประเทศขยับแซงไทยขึ้นไปด้วยคะแนนที่ดีกว่าเดิม สะท้อนว่า ประเทศเพื่อนบ้านของเรามีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับประเทศไทยที่มีรัฐบาลซึ่งเอาแต่ยกอ้างความเป็นคนดี มีศีลธรรม แต่ผลงานกลับดิ่งเหวในทุกด้าน รวมถึงด้านการปราบทุจริตคอร์รัปชั่น
ดังนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่า รัฐบาลนี้สืบทอดอำนาจมาจากคณะรัฐประหาร คสช.ที่อ้างว่ามาปราบโกง มาปราบทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ผลงานกลับล้มเหลวโดยสิ้นเชิง จึงไม่แปลกใจที่ เมื่อมีการตรวจวัดกันด้วยมาตรฐานสากลครั้งใด ทั้งอันดับและคะแนนของไทยจะย่ำแย่ลงแทบทุกปี เหตุเพราะรัฐบาล “ประยุทธ์”ไม่ยอมให้ตรวจสอบทุกด้าน จึงนำไปสู่ความเฟื่องฟูของการทุจริตคอรัปชั่นที่มักย้อนมาเสมอ ในยุคที่มีการปกครองโดยคณะทหารหรือรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจ