“ตรีชฎา” ซัดรัฐบาลแจกอังเปาตรุษจีนเป็นของแพงถ้วนหน้า ชี้พาณิชย์เพิ่มรายการสินค้าควบคุมแต่บ้อท่า คุมราคาสินค้าไม่ได้ สุดท้ายเจ้าสัวเป๋าตุงรับทรัพย์ทุกเทศกาล
วันที่ 1 ก.พ.65 น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนประจำปีนี้ รัฐบาลได้แจกอังเปาให้ประชาชนเป็นของแพงทั้งแผ่นดิน เป็นตรุษจีนที่ทำให้ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนต้องปรับตัวอย่างหนัก เนื่องจากราคาสินค้าในตลาดแพงและแรง ชนิดที่ประชาชนไม่สามารถซื้อของมาไหว้เจ้าได้อย่างที่เคยทำ ทั้งราคาหัวหมูขึ้นเกือบเท่าตัวจากหัวละ 450-600 บาทกระโดดขึ้นเป็น 800 บาท ราคาไก่บ้านปรับขึ้นเป็นราคาตัวละ 530 บาท ราคาเป็ดปรับขึ้นเป็นตัวละ 440 บาท ราคาหมูต้มปรับขึ้นเป็นชิ้นละ 280 บาท หมูกรอบปรับขึ้นมาเป็นชิ้นละ 200 บาท ขนมเข่งยังมีราคาสูงถึงคู่ละ 28 บาท ตกชิ้นละ 14 บาท จากเดิมราคาอันละ 8 บาท ราคาสินค้าที่ใช้ในเทศกาลตรุษจีนยังแพงมาถึงราคากระดาษเงินกระดาษทอง ประชาชนต้องจุดธูปบอกบรรพบุรุษให้ปรับตัวตามเศรษฐกิจ บางรายหันไปใช้วุ้นเลียนแบบของจริง เช่น วุ้นหัวหมู วุ้นไก่ วุ้นเป็ด กระทั่งวุ้นผลไม้ เพื่อเอาไปใช้ไหว้หลอกเจ้าแทนของจริงที่มีราคาแพง ความเดือดร้อนยังส่งผลมาถึงเจ้าของฟาร์มจระเข้ในจังหวัดนครปฐมที่จำเป็นต้องใช้จระเข้ไหว้เจ้าและใช้เนื้อจระเข้ปรุงอาหารแทนการใช้หัวหมูและเนื้อหมู จนมีคำถามที่เจ็บปวดที่สุดในเวลานี้ คือ ชาวไทยเชื้อสายจีนคนใดตกงาน รายได้ไม่พอรายจ่าย แต่มีความจำเป็นต้องรักษาธรรมเนียมประเพณีไว้ จะต้องไหว้เจ้าทางออนไลน์แทนได้หรือไม่
น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีน ถือเป็นดัชนีชี้วัดการจับจ่ายของประชาชนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นช่วงของการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ของคนไทยเชื้อสายจีนเช่นเดียวกับเทศกาลสงกรานต์ที่เป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทย รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ออกประกาศสินค้าควบคุมเพื่อสกัดราคาสินค้าที่แพงก็เอาไม่อยู่ ทั้งยังแนะนำให้ประชาชนไปซื้อสินค้าราคาถูกในห้างสรรพสินค้าแทน ยิ่งทำให้เจ้าสัวกระเป๋าตุงและรวยขึ้น ประชาชนบอบช้ำจากโควิด-19 ทำสภาพเศรษฐกิจบอบช้ำ สินค้าแพงและคนไม่มีเงิน ยิ่งมีรัฐบาลที่มีสภาพง่อนแง่น ทั้งมีความขัดแย้งภายในและพ่ายแพ้การเลือกตั้งซ่อมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ถือเป็นการเร่งปฏิกิริยาการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันทุกวินาที
“อาจต้องเพิ่มฉายารัฐบาลนี้ว่า รัฐบาลของปลอม ทำของแพงทั้งแผ่นดิน จับจ่ายช่วงตรุษจีนต่ำที่สุดในรอบ 11 ปี วันไหว้บรรพบุรุษในวันตรุษจีนยังต้องใช้วิธีหลอกเจ้าด้วยการใช้ของปลอมครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย เพราะมีนายกรัฐมนตรีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านเศรษฐกิจ แต่มาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ สิ่งที่เราไม่เคยเห็นก็ได้เห็นในยุครัฐบาลนี้ ยุคที่เห็นน้ำตาจระเข้ของจริง เพราะถูกนำมาไหว้เจ้าแทนหัวหมู พล.อ.ประยุทธ์ สมควรต้องลาออกจากการเป็นผู้นำเศรษฐกิจและควรลาออกจากทุกตำแหน่ง เพราะสิ้นสภาพและไร้ความสามารถในการแก้ปัญหาให้กับประชาชน”น.ส.ตรีชฎา กล่าว