ประชุมพปชร.เงียบเหงา!! “ไพบูลย์” ยันพปชร.เรียบร้อยดี ลั่นพ่ายศึกเลือกตั้งแค่เขตเดียวไม่สะเทือน 399 เขต เมินเสียงวิจารณ์พรรคแตก เย้ยฝ่ายค้านร้องยุบสภาอึดอัดมากก็ลาออกไป เหน็บ “ธรรมนัส” โพสต์ไร้สาระ มั่นใจรบ.-สภาฯ อยู่ครบเทอม
วันที่ 2 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.00 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมพรรคพลังประชารัฐโดยมีนายไพบูลย์นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นพร้อมด้วยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นประธานร่วมด้วยโดยมีการหารือเพียงแค่แจ้งวาระการประชุมสภาฯ ในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้บรรยากาศในที่ประชุมค่อนข้างเงียบเหงามีส.ส.เข้าร่วมประชุมบางตา ทั้งนี้แม้จะมีการนัดประชุมในเวลา 09.00 น. แต่เมื่อ ส.ส.บางคนเดินทางมาถึงห้องประชุมยังถูกล็อกอยู่ ไม่มีเจ้าหน้าที่มาเปิดให้
นายไพบูลย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ถึงสถานการณ์ภายในพรรคภายหลังแพ้การเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขตหลักสี่และจตุจักร ว่าเรียบร้อยดี ไม่มีอะไร เพราะการเลือกตั้งซ่อมดังกล่าวเป็นเพียง 1 เขต ใน 400 เขตเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งใหญ่คราวหน้ามี 400 เขต ดังนั้น จึงเหลืออีก 399 เขตแต่ต้องถือว่าหนึ่งเขตดังกล่าวเป็นข้อมูลให้กับทางพรรค ไม่ได้มีผลกระทบอย่างที่เป็นนัยสำคัญใดๆ จากนี้พรรคจะต้องทำงานในการดูแลประชาชนหนักขึ้น และทำทุกอย่างเพื่อประเทศ การเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าต้องรออีกปีกว่า ซึ่งยังมีเวลาที่รัฐบาลจะได้ทำงาน เชื่อมั่นว่าจะไม่มีการยุบสภา และจะอยู่จนครบวาระ และจะมีการเลือกตั้งใหญ่เดือน มี.ค. ปี66 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐก็มีความพร้อมเลือกตั้งใน 400เขต คิดว่าทุกอย่างไม่มีปัญหา หรืออะไรที่น่าเป็นห่วง ซึ่งทุกพรรคก็เป็นเช่นนี้ หลังการเลือกตั้งก็มีวิพากษ์วิจารณ์กันไปตามปกติ
เมื่อถามว่าผลการเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่ จตุจักร อยู่ในกทม.อาจสะท้อนความนิยมของคนกทม.ที่มีต่อพรรคพลังประชารัฐ นายไพบูลย์ กล่าวว่า จะมองอย่างไรก็ได้ แต่ก็เป็นเพียงหนึ่งเขตการเลือกตั้ง อย่างไรก็เสียพรรคก็ยังมีส.ส.กทม. อีก11 คน บริบทของแต่ละเขตเลือกตั้งแตกต่างกัน และมั่นใจว่าการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าพรรคมีความสามารถเข้าไปอยู่ในใจของประชาชนได้อย่างแน่นอน
ถามถึงกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรคจะแตกก่อนมีการเลือกตั้งรอบหน้า นายไพบูลย์ กล่าวว่า ก็พูดกันมาตั้งแต่ตั้งพรรค หลังเลือกตั้งปี62ก็พูดมาตลอด พอกันกับที่เรียกร้องให้ยุบสภา ที่พูดตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เรียกร้องมาตั้ง3ปีแล้ว สงสัยต้องเรียกร้องไปจนถึงปีที่4 ส่วนพรรคไม่มีอะไร เดินหน้าได้อยู่แล้ว อย่าคิดเยอะ พรรคการเมืองก็มีปฏิปักษ์อยู่แล้ว แม้กระทั่งคนที่เหมือนจะเป็นมิตร แต่ก็มีการแข่งขัน ดังนั้น ต้องรอให้มีการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ถามว่าฝ่ายค้านระบุหากพรรคพลังประชารัฐยังไม่มีการปรับเปลี่ยน พรรคจะมีส.ส.ต่ำกว่า50คน นายไพบูลย์ กล่าวว่า เขาก็พูดไป ซึ่งพรรคต้องมีการแข่งขันกัน ก็ต้องพูดจาให้ร้ายกับพรรคที่เป็นคู่แข่งที่มีความสามารถ เป็นการดิสเครดิตทางการเมือง แต่พรรคของเราไม่ทำแบบนั้น
ถามต่อว่ามองหรือไม่ว่าคะแนนนิยมในตัวนายกฯลดลง นายไพบูลย์ กล่าวว่า ก็เป็นเพียงแค่ 1 เขตเลือกตั้ง แต่เราก็ต้องนำมาคิดแต่จะนำมาตัดสินเขตที่เหลือทั้ง 399 เขตนั้นไม่ได้ ต้องดูเป็นเขตๆไป สมัยที่พรรคชนะในการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดขอนแก่น พรรคเพื่อไทยไม่เห็นจะออกมาพูดว่าเพื่อไทยจะล่มสลาย ดังนั้นการวิพากษ์วิจารณ์จึงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับการเมือง
ถามถึงผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. ที่พรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนนต่ำในเขตทหาร ต่ำกว่า พรรคก้าวไกล นายไพบูลย์ กล่าวว่า เขตนี้มีบริบทที่แตกต่างจากเขตอื่นมาก
ถามด้วยว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และอดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟสบุ๊ค ว่าศัตรูของศัตรูคือมิตร นายไพบูลย์ กล่าวว่า อย่าคิดเยอะเป็นการเมืองก็พูดกันไป ไม่มีสาระที่พรรคจะนำมาเป็นเรื่องภายในพรรค มีงานอีกมากที่จะต้องทำต่อ ต้องดูแลประชาชน ยืนยันไม่กระทบเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลและสภาจะอยู่ไปอีกปีกว่า แต่ส่วนผู้ที่เรียกร้องให้ยุบสภา ตนเห็นใจ เพราะเรียกร้องตั้งแต่ปีแรก ห่วงว่าจะอึดอัดจนทนไม่ไหว ถ้าทนไม่ได้ก็ลาออกไป ไม่เป็นไร
ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนคณะกรรมการบริหาร(กก.บห.)มีมติส่งนายสิระ เจนจาคะ ลงสสตั้งแต่แรกทั้งที่ขาดคุณสมบัติ อาจถึงขั้นยุบพรรค นายไพบูลย์ กล่าวว่า ดูข้อกฎหมายแล้วไม่มีอะไรเกี่ยวพันธ์กับคณะกก.บห. ที่จะนำไปสู่การยุบพรรค ตนจึงไม่หนักใจหรือห่วงอะไรทั้งสิ้น รวมถึงความผิดของหัวหน้าพรรคที่รับรอง ก็ไม่น่าเป็นห่วง เพราะกกต.ก็ยังรับรอง แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าให้นายสิระพ้นจากส.ส. ก็ต้องเป็นไปตามนั้น