“สมศักดิ์” เชื่อหัวหน้าพรรคเข้าใจการเมืองมากขึ้น ชี้มีเวลาปีกว่าพปชร.ทบทวน แนะเร่งศรัทธาขากปชช. พรรคมีอิสระมาก เมิน”ธรรมนัส” โพสต์แขวะ โยนผู้บริหารสังคายนาพรรคหรือไม่ ย้ำสามมิตรยังอยู่กับพปชร.
วันที่ 2 ก.พ. 65 ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และรมว.ยุติธรรม กล่าวถึง พรรคพลังประชารัฐคะแนนนิยมลดว่า พรรคมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกันมากแล้ว ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ คิดว่าได้แก้ปัญหาไปแล้ว ก็รอเวลาของรัฐบาลและรัฐสภา ซึ่งมีเวลาเหลือ 1 ปี 2 เดือน ก็สามารถที่จะทำ ให้เกิดความเข้าใจ ในสิ่งที่ผู้คนไม่เข้าใจ คนในพรรคที่ไม่เข้าใจก็คงเข้าสู่หมวดการเมืองอย่างแท้จริง ดังนั้นเมื่อพรรคมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว สิ่งที่เป็นผลในอดีตก็ปรากฏให้เห็นแล้ว แต่คนมองว่ามันคือความตกต่ำ หรือไม่ตกต่ำ เป็นที่เข้าใจกัน ก็ต้องดูการก้าวเดินของพรรคต่อไป จึงเชื่อมั่นว่าหัวหน้าพรรคก็คงเข้าใจมากมาย และก้าวเดินต่อไป ในเรื่องของการเมืองจะถอยหลังหรือหยุดไปไม่ได้ต้องเดินต่อ ยังมีเวลาอยู่พอสมควรในการดำเนินการ
เมื่อถามว่าความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐ เป็นต้นเหตุหนึ่งของการแพ้เลือกตั้งนายสมศักดิ์อาวาส ไม่ได้แพ้เพราะชื่อพรรค แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องทำความเข้าใจและอาจจะขยับเปลี่ยน หรือไม่ขยับเปลี่ยนก็ได้เพราะเปลี่ยนไปแล้ว รอเวลาต้องใช้เวลา วันนี้ต้องยอมให้สื่อวิพากษ์วิจารณ์ไปก่อน และใช้เวลาที่เหลืออยู่เพื่อไปสู่เป้าหมายที่แท้จริง ของประชาชน
เมื่อถามถึงกรณีที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐโพสต์ Facebook ระบุว่าศัตรูคือมิตร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า าตนไม่ได้สนใจเรื่องเล็กๆ
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ 21 คนที่ออกไปจะทำให้สถานภาพของรัฐบาลสั่นคลอนในการพิจารณากฎหมายสำคัญสำคัญ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องจริงอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะคนมีสิทธิ์คิด มีสิทธิ์มองทุกมุม แต่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริงอาจจะไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย อย่าคิดไปก่อน ก็ต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่ห่วงใย
เมื่อถามว่าเป็นการเตือนของร.อ.ธรรมนัสหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบไม่ได้ดู
เมื่อถามว่าเมื่ออยู่ในพรรคยัคุมไม่ได้ออกไปแล้วจะสามารถคุมเสียงได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐมีประชาธิปไตยสูงมาก เรื่องการคุ้มกันไม่มี ที่ผ่านมาไม่มีการคุม หรืสั่งให้หันซ้ายหันขวา เป็นประชาธิปไตยที่ไม่ได้สั่งการอะไรเลยจึงออกมาเป็นแบบนี้
เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้แสดงว่ามีความเป็นอิสระใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นอิสระมากๆ ตนเคยทำงานการเมืองมาหลายปี อาจไม่ปล่อยอย่างนี้แต่อันนี้ปล่อย เป็นเสรีประชาธิปไตยมากๆ จึงเลยไปบ้าง ก็ดึงกลับมา
เมื่อถามว่าเหลือเวลาปีกว่าจะสามารถกู้วิกฤติศรัทธาของพรรค ได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้เรากลับมายืนอยู่ในจุดที่ควรจะเป็น ต้องรอฝ่ายบริหารของพรรคที่จะดำเนินการต่อไป
“ผมไม่กล้าไปแนะนำอะไร แก้อะไร เพียงแต่ว่าเราทำในส่วนตัว และในส่วนที่รับผิดชอบของเราให้ดี ถ้าทุกคนคิดเหมือนกันทำในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบให้ดีที่สุด มองประชาชนเป็นหลัก สามารถกลับมาได้ อย่าไปตกใจว่ามาไม่ได้ ไม่ใช่ เพียงแต่ว่าเราจะกลับมากันหรือไม่”นายสมศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าถึงเวลาดึงกลับมาหมายความว่าดึงสมาชิกได้หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่ใช่ หมายความว่าแต่ละคนทำงานให้เต็มที่ ตนเชื่อว่าสมาชิกรู้แล้วว่าต้องทำอะไร ทำงานกันอย่างเต็มที่ทำความเข้าใจสร้างผลงาน ว่าจะมีการสังคายนาพรรคหรือไม่ แล้วแต่ผู้บริหารจะสั่งสังคายนาหรือก็ได้ได้ตามอัธยาศัย แต่ทุกคนต้องเตรียมตัวเองให้รู้ว่านี่คือการเมือง ไม่ใช่ทำเพื่อตัวเราเองแต่ต้องทำเพื่อส่วนรวม ทำอย่างไรที่จะให้ส่วนรวมยอมรับได้ ถ้าเรายังมองไม่ออกและยังทำเหมือนเดิม ก็อาจจะสู้คนอื่นไม่ได้ ถ้าปรับแล้วมันอาจจะดีกว่าอันอื่นหรือคนอื่นที่เขาทำก็ได้ยังมีเวลาอยู่
เมื่อถามว่าสามมิตรยังอยู่กับทางบริษัทหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังอยู่ ไม่ไปไหน สวนกระแสว่สจะไปอยู่ที่อื่นก็แล้วแต่สื่อ และแต่คนมอง เพราะสื่อมีหน้าที่วิเคราะห์ เรายังไม่คิดเขาคิดให้เราเรียบร้อย บางทีเราก็คิดตามว่า เป็นอย่างนั้นจริงๆหรือไม่
เมื่อถามว่าเลือกตั้งครั้งหน้าลงในนามพลังประชารัฐแน่นอนใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าววาส สื่อคิดนำให้แล้ว อย่าไปทำอย่างนั้นไม่ดี เพราะถือว่าไม่สร้างสรรค์ เราต้องทำงานเพื่อส่วนรวมมีเวลาตั้งเยอะ ถ้าเราสร้างความไม่เข้าใจให้กับผู้คนทั้งประเทศ ก็ต้องการชี้แจงกัน ยังมีเวลาทำงานได้อีกเยอะ
ฝ
