“นิด้าโพล” เผยผลสำรวจเหตุการณ์สภาฯล่ม ชี้เป็นเกมกลุ่มที่ต้องการล้มรัฐบาล แนะลงโทษด้วยการตัดเงินเดือน สวัสดิการ ไล่ออก
เมื่อวันที่ 13 ก.พ.65 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “สภาล่ม” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ 2565 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับเหตุการณ์ “สภาล่ม” ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่าง โดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
จากการสำรวจเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อบุคคล/กลุ่ม ที่ควรรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ “สภาล่ม” ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 43.44 ระบุว่า ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล รองลงมา ร้อยละ 42.37 ระบุว่า รัฐบาล ร้อยละ 37.94 ระบุว่า ส.ส. ฝ่ายค้าน ร้อยละ 32.60 ระบุว่า นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 14.66 ระบุว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย ร้อยละ 12.60 ระบุว่า ประธานวิปรัฐบาล นายนิโรธ สุนทรเลขา ร้อยละ 11.83 ระบุว่า ประธานวิปฝ่ายค้าน นายสุทิน คลังแสง ร้อยละ 2.29 ระบุว่า ไม่ควรมีใครต้องรับผิดชอบ และร้อยละ 7.10 ระบุว่า เฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ “สภาล่ม” ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 49.85 ระบุว่า เป็นเกมการเมืองของกลุ่มที่ต้องการล้มรัฐบาล รองลงมา ร้อยละ 31.98 ระบุว่า มี ส.ส. จำนวนหนึ่ง ไร้สามัญสำนึกในการทำหน้าที่ภายในรัฐสภา ร้อยละ 16.03 ระบุว่า วิปรัฐบาล ไม่มีประสิทธิภาพ ร้อยละ 11.91 ระบุว่า มี ส.ส. จำนวนหนึ่ง ขี้เกียจสันหลังยาว ร้อยละ 8.17 ระบุว่า รัฐบาลต้องการเตะถ่วงกฎหมาย ร้อยละ 4.89 ระบุว่า วาระการประชุมไม่ดึงดูดใจให้เข้าประชุม ร้อยละ 4.35 ระบุว่า วิปฝ่ายค้าน ไม่มีประสิทธิภาพ ร้อยละ 2.82 ระบุว่า สภาล่มเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิด และร้อยละ 2.29 ระบุว่า ส.ส. จำนวนหนึ่งมีภาระหน้าที่อื่น ที่สำคัญกว่าต้องทำ
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อวิธีแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ “สภาล่ม” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 30.15 ระบุว่า ลงโทษตัดเงินเดือน สวัสดิการ ส.ส. ที่ขาดประชุมสภาเกินกว่าที่กำหนดโดยไม่มีเหตุจำเป็น รองลงมา ร้อยละ 22.82 ระบุว่า ลงโทษตัดสิทธิทางการเมือง ส.ส. ที่ขาดประชุมสภาเกินกว่าที่กำหนดโดยไม่มีเหตุจำเป็น ร้อยละ 22.29 ระบุว่า ลงโทษไล่ออกจากตำแหน่ง ส.ส. ในกรณีที่ขาดประชุมสภาเกินกว่าที่กำหนดโดยไม่มีเหตุจำเป็น ร้อยละ 17.71 ระบุว่า ลงโทษปรับเงิน ส.ส. ทุกครั้งที่ไม่เข้าร่วมประชุม ร้อยละ 16.03 ระบุว่า ลงโทษประจานชื่อผู้ขาดประชุมสภาต่อสาธารณะ ร้อยละ 14.20 ระบุว่า ลงโทษยุบพรรคการเมืองที่มี ส.ส. ขาดประชุมสภา เกินกว่าที่กำหนด ร้อยละ 12.60 ระบุว่า ไม่มีวิธีใดที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และร้อยละ 2.98 ระบุว่า เฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ