กกต.นัดพิจารณามติ พปชร.ขับพ้นพรรคชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ 14 ก.พ. ชี้หากไม่ชอบ 21 ส.ส.ยังคงเป็นสมาชิกพปชร.ได้
เมื่อวันที่ 13 ก.พ.65 รายงานแจ้งว่า การประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ในวันที่ 14 ก.พ.เวลา 13.00 น. มีวาระพิจารณากรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือขอให้กกต.ตรวจสอบมติพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขับ 21 ส.ส.ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และกรณีที่นายสมัย รามัญอุดม ซึ่งอ้างว่าเป็นสมาชิกพรรค พปชร. พร้อมพวกรวมกว่า 100 คน ยื่นคำร้องตามมาตรา 42 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 อ้างว่า มติขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ และส.ส.พปชร.รวม 21 คน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้ หากกกต.เห็นว่าการดำเนินการมีมติขับดังกล่าวเป็นไปตามที่กฎหมาย และข้อบังคับกำหนด ก็จะมีมติรับทราบตามกระบวนการ โดยจะมีการแจ้งหนังสือไปยังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ภายใน 3 วัน เพื่อให้ทันครบกำหนดในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้
หากพบว่า มติขับดังกล่าวเป็นไม่ไปตามที่กฎหมาย และไม่เป็นไปตามข้อบังคับกำหนด ทาง กกต.มีอำนาจสั่งเพิกถอนมติของพรรคพปชร.ได้ เท่ากับว่าทั้ง 21 ส.ส.ยังคงเป็นสมาชิกพรรคพปชร.
ส่วนการไปสังกัดเป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทย อาจทำให้เกิดความซ้ำซ้อนเรื่องของความเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ส่งผลให้ความเป็นส.ส.สิ้นสุดลงได้ เนื่องจากส.ส. 1 คน เป็นสมาชิกพรรคได้เพียง 1 พรรคเท่านั้น
สำหรับกรณีดังกล่าวนั้น เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 65 เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีหนังสือสอบถาม กกต. ถึง สถานภาพการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 18 ราย จากนั้นวันที่ 1 ก.พ. 65 นายสมัย รามัญอุดม พร้อมสมาชิกพรรคพลังประชารัฐกว่า 100 คน ยื่นคำร้อง ตามมาตรา 42 ของ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยพรรคการเมือง ว่า มติของพรรคขัด พ.ร.ป.พรรคการเมืองหรือ กม.อื่น เพื่อให้ กกต.มีคำสั่งเพิกถอนมติการขับ ส.ส. 21 ราย
ส่วนวันที่ 4 ก.พ. สำนักงาน กกต. มีหนังสือเลขที่ ลต(ทบพ.)0015/1546 ตอบเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับสถานะการเป็นสมาชิกพรรคของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 18 ราย สรุปว่า ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทยตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. เนื่องจากตามกฎหมายกำหนดให้ ส.ส.ที่ถูกขับออกจากพรรคจะต้องหาพรรคใหม่ใน 30 วัน คือภายในวันที่ 18 ก.พ. มิฉะนั้นจะสิ้นสภาพ ส.ส. ตามเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(9) โดยวันที่ 14 ก.พ.นี้ กกต. จะพิจารณาหนังสือแจ้งมติพรรค ไปพร้อมกับคำร้องของนายศรีสุวรรณ จรรยา และ นายสมัย รามัญอุดม