“พิเชษฐ”-“มงคลกิตติ์” จ้อวถล่มอภิปราย 8 ประเด็น เหน็บรัฐบาลทำดีไม่ต้องกังวล เสี้ยมอย่าเชื่อจำนวน 260 เสียง เชื่อ “บิ๊กตู่” ถูกหลอกกินกล้วย
วันที่ 16 ก.พ. 65 นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ หัวหน้ากลุ่ม16 และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะผู้ประสานงานกลุ่ม16 แถลงข่าวถึงญัตติอภิปรยทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยไม่มีการลงมติตามมาตรา 152 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ระหว่างวันที่ 17 – 18 ก.พ. 65
โดยนายพิเชษฐ เปิดเผยว่า ยืนยันตั้งกลุ่ม 16 ทำเพื่อประชาชนไม่มีผลประโยชน์ต่อรอง และกลุ่ม 16 ส่วนใหญ่เป็นส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ซึ่งมาจากพรรคเล็กๆ รวบรวมปัญหาต่างๆของประชาชนและ ติดตามการทำงานของรัฐบาล เพื่อเป็นปากเสียงกับประชาชนอย่างแท้จริง จึงได้มอบหมายให้นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ พรรคไทยศรีวิไลย์ จะเป็นตัวแทน ของกลุ่มในการอภิปรายทั่วไปในครั้งนี้ โดยรวบรวม ประเด็นมาประมาณ 8 เรื่องด้วยกัน ทั้งนี้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้ยืนยันแล้วว่าการตั้งกลุ่ม 16 ถือเป็นเรื่องส่วนตัวในฐานะ ตัวแทนประชาชน เพราะตนได้รับเสียงสะท้อนจากประชาชน จึงต้องสะท้อนให้รัฐบาล ได้รับทราบและแก้ไขปัญหาต่อไป
ด้านนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่าในกลุ่มขณะนี้มีประมาณ 14 คน ซึ่งมอบหมายให้ตนนำปัญหา จากประชาชนมาสะท้อน และให้ตนเป็นตัวแทนมาอภิปรายในนามของฝ่ายค้านซึ่งได้เวลาประมาณ 20 นาที โดยมีข้อมูลเรื่องกระบวนการทุจริต เป็นเหตุให้หมูราคาแพง มีการปกปิดข้อมูลเรื่องหมูติด asf รวมถึงเรื่องของการบริหารราชการแผ่นดินปัญหาราคาน้ำมัน ซึ่งมีการเรียกร้องมานาน แต่เพิ่งมาลดภาษีน้ำมัน และยังไม่มีแนวทางการหารายได้มาทดแทน / ปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างวิทยุสื่อสารของกระทรวงมหาดไทย วงเงิน 4,334 ล้านบาท ที่จะโหมโรง ส่วนข้อมูลรายละเอียดจะอภิปรายตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากยังไม่มีการส่งมอบของ / เรื่องเหมืองทองคำอัคราที่ยังเป็นปัญหา ซึ่งประเด็นนี้ จะมีส.ส.พรรคเพื่อไทยอภิปรายนำร่องไปก่อน
นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า ยังมีประเด็นที่รัฐบาลจะต่ออนุมัติ สัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวล่วงหน้า 30 ปี ที่ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยยังคัดค้าน และเห็นว่าเรื่องนี้สมควรให้กทม.นำกลับมาทำเอง ซึ่งการต่อสัญญาดังกล่าวเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติการสมยอมหรือฮั้ว ขณะเดียวกันกำลังหาหลักฐานเพิ่มเติมเรื่องของสัมปทานดาวเทียมไทยคม หากมีหลักฐานครบชัดเจนอาจจะเก็บไว้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งหน้า
นอกจากนี้ยังจะมีข้อมูลอาจจะเอื้อประโยชน์ให้ร้านค้าใหญ่ ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ มอก. ซึ่งเรื่องนี้อาจจะส่งผลกระทบกับ ร้านค้าปลีกขนาดกลางและขนาดเล็กในโชว์ห่วย รวมถึงข้อมูลของกระทรวงแรงงานร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดศูนย์ ci กำลังตรวจสอบว่ามีนายหน้า เก็บหัวคิวในการต่ออนุญาต 1 ปีหรือไม่
“ยืนยันจะอภิปรายด้วยข้อมูลที่ครบถ้วนหากส่วนไหนยังไม่ครบก็จะเก็บไว้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งหน้า ซึ่งฝ่ายค้านรัฐบาลและประชาชนให้ข้อมูลมา เป็นเรื่องผลประโยชน์ของประชาชน เราก็จะทำหน้าที่ผู้แทนปวงชนชาวไทยอย่างเต็มความสามารถ กลุ่ม 16 ที่จะทำเพื่อประโยชน์พี่น้องประชาชนไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อ ต่อรองและถ้านายกรัฐมนตรี บริหารดี ใครก็ทำอะไรไม่ได้และขอร้องนายกรัฐมนตรีว่าให้อยู่ฟังการอภิปรายให้ครบ 2 วันและขออย่าไปเชื่อตัวเลขส.ส. 260 เสียง และขอเตือนที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายเสธฯระวังโดนหลอกกินกล้วยจนหมดตัว ยืนยันจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในเดือนเมษายนนี้ เพื่อไม่ให้นายกรัฐมนตรียุบสภา
นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวไม่มั่นใจว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะอยู่ถึงอภิปรายไม่ไว้ใจหรือไม่ เพราะหากสภารับเป็นมติแล้วยุบสภาไม่ได้ แต่ตนก็เกรงว่านายกรัฐมนตรีอาจจะยุบสภาเม.ย.นี้ ไม่น่าจะเลยไปได้ และ มีข้อมูลว่ามีส.ส. ฝ่ายค้านไปกินข้าวกับฝ่ายรัฐบาลและมีการแจก”กล้วย”จริงตอนกินข้าว ซึ่งแจกคนละ 200,000 บาท และมีการแจกกล้วยคนละ 20-30 เรื่องนี้คงไม่มีความลับ ดังนั้นเรื่องนี้น่าจะมีความพยายามในการดูดฝ่ายค้านเข้าไปหนุนพลเอกประยุทธ์ เพื่อให้อยู่ประชุมเอเปค บางทีกล้วยในสวนนายกที่เป็นรถสิบล้อรถพ่วงบางทีอาจจะต้องหมดสวนคราวนี้ และสุดท้ายกล้วยของนายกฯอาจจะไม่มีค่าสำหรับพวกเขา บางทีฝ่ายเสธฯ จะเบิกไป 100 หวีแจก 30 หวีจะหมดตัวตอนแก่” นายมงคลกิตติ์กล่าว
ขณะนี้ตัวเลขส.ส. รัฐบาลที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ ไม่น่าจะถึง 260 เสียงตามที่มีการกล่าวอ้าง ถ้าตัดกลุ่ม 16 และกลุ่มร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า แต่ทราบว่ามีความพยายามที่จะประสานเสียงส.ส.ฝ่ายค้านกลับไป ซึ่งหากส.ส.ฝ่ายค้านคนใดไปสนับสนุน เชื่อว่า พรรคคงไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยหน้า ดังนั้น เชื่อว่าหากมีรับ”กล้วย”ก็น่าจะเป็นรับ”กล้วย”ครั้งสุดท้ายในชีวิต หรืออาจจะรับแต่ไม่ไปและไม่โหวตให้ด้วยเขาเรียกว่าหลอกกินฟรี 100%
ทั้งนี้มีบุคคลในกลุ่มที่เปิดเผยตัวชัดเจน 7 คนแต่ส่วนที่เหลือ ขอไม่พูดชื่อ เพราะส่วนใหญ่คนที่ออกมาปฏิเสธคือหัวหน้าพรรค ซึ่งไม่ใช่เจ้าตัว และมีบางคนขอให้ใช้ชื่อลูกพรรคไปแถลงข่าว แต่ตัวเองไม่ได้แถลง แต่ที่ชัดเจนว่าไม่ได้อยู่กลุ่ม 16 มีนายแพทย์ระวี มาศฉมาดล และพรรคพลเมืองไทย และยืนยันว่าถ้ามีการลงมติทางกลุ่ม 16 โหวต จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน.
