“ทวี” กัดไม่ปล่อยปูดรฟม.ฟ้องศาลปกครอง ปมที่ดินเขากระโดง หวังช่วยตระกูล “ชิดชอบ” ทวง”บิ๊กตู่” ซื่อสัตย์ จริงต้องรักษาที่ดินร.6 พระราชทานแก่การรถไฟฯคืน อัดรบ.ใช้อำนาจประกาศทับที่ดินชาวบ้าน เอาเปรียบกลุ่มชาติพันธุ์
วันที่ 17 ก.พ.65 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 จากนั้นเวลา 12.25 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ อภิปรายตอนหนึ่งถึงปัญหาที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ว่า คดีดังกล่าว ปี65 ศาลฏีกายืนตามคำวินิจฉัยศาลอุทธรณ์ ถือเป็นที่สิ้นสุดแล้วหลังจากนี้ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการบังคับคดี วันนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ฟ้องประชาชน และประชาชนแพ้ สรุป ที่ดิน 5,083 ไร่เป็นของการรถไฟ และมีการเขียนไว้ว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ที่ทรงพระราชทานให้ และเป็นที่ดินที่ผู้หนึ่งผู้ใดจะเข้าไปอยู่ไม่ได้ แต่แล้ววันดีคืนดี ปลายเดือนธ.ค. 64 ผู้ว่าฯการรถไฟ ไปฟ้องศาลปกครองฟ้องกรมที่ดิน จากที่ตนอ่านคำฟ้องดังกล่าว การรถไฟบอกว่าตนเองมีที่ดินไม่ถึง 500 แปลง แต่กรมที่ดินบอกว่าการรถไฟมี 850 แปลง ซึ่งตนคิดว่าถ้าผู้ว่าฯการรถไฟเป็นคนธรรมดาจะต้องอยู่ไม่ได้ เพราะนี่คือความรับผิดชอบที่ดินที่เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน แต่ในคำฟ้องกลับบอกว่าตนเองมีที่ดินเพียง 497 แปลง แต่กรมที่ดินมีหลักฐานว่าการรถไฟมีที่ดินถึง 850 แปลง
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า สาเหตุที่หยิบเรื่องดังกล่าวขึ้นมา เพื่อต้องการชี้ให้เห็นนว่าการที่รัฐบาลชุดนี้ตัดสินใจเปลี่ยนจากศาลยุติธรรมไปฝ่ายฟ้องศาลปกครองแทนนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะเรื่องเดิมศาลยุติธรรมก็ให้ความยุติธรรมแล้ว ทั้งยังมีข้อมูลว่าการรถไฟฟ้ามีที่ดินถึง 850 แปลง แต่ถามว่าทำไมการรถไฟถึงไม่ฟ้องกับศาลยุติธรรม ขอตั้งข้อสังเกตว่าอาจเพราะในที่ดินดังกล่าว นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ยอมรับว่าเป็นที่ที่ตัวเองและญาติพี่น้องอยู่ อีกทั้งเป็นพื้นที่สนามฟุตบอลช้างอารีน่า และบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอยู่ ฉะนั้น ผู้ว่าฯการรถไฟจึงไม่กล้าฟ้องเจ้านายของตัวเอง
“ผมคิดว่าบุญคุณกับความถูกต้อง ถึงเวลาแล้วที่ต้องเอาความถูกต้อง ประโยชน์ส่วนตัวกับประโยชน์ส่วนร่วมคิดว่าประโยชน์ส่วนร่วมที่นายกฯพูดต้องมาก่อน ระบบอุปถัมภ์และระบบคุณธรรมคิดว่าระบบคุณธรรมต้องมี การตัดสินใจฟ้องกรมที่ดิน เพื่อให้กรมที่ดินจ่าย แต่กรมที่ดินไม่จ่ายเพราะเป็นเงินของประชาชน และคดีนี้ถ้าฟ้องศาลยุติธรรม คนที่จ่ายค่าเสียหาย คือผู้ครอบครองที่ดิน เขาบอกว่าในบรรดาคุณสมบัติสำคัญ คือผู้นำ ถ้าผู้นำไม่สัตย์ซื่อ และมีคนชั่วที่แข็งแกร่ง แล้วผู้นำอ่อนแอ ประเทศไปไม่ได้ ปัจจุบันการรถไฟมีหนี้จำนวนมาก ถ้าได้ค่าเสียหายจากตรงนี้ ปีหนึ่งได้หมื่นกว่าล้านบาท รัชกาลที่ 6 พระราชทานมาเพื่อประโยชน์ของคนอื่น ดังนั้น นายกฯต้องดู นายกประกาศว่าเป็นคนซื่อสัตย์ นายกต้องมารักษาการณ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แล้วท่านอาจให้ตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมแก่นายศักดิ์สยาม เพราะถึงอย่างไรผมเชื่อว่าทหารก็มีความเข้มแข็ง” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ปัญหาที่ดินที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยระบุว่าพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ ที่ให้อำนาจรัฐละเมิด รุกล้ำ แย่งชิงพื้นที่ของประชาชน โดยเฉพาะกับกลุ่มชาติพันธุ์ ที่เข้าไปอยู่ก่อนที่จะมีการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าว เช่น ปัญหาที่บูโด-สุไหงปาดี รัฐบาลใช้อำนาจนิยมประกาศทับที่ประชาชน อีกทั้งนายกฯยังทวงคืนผืนป่าด้วยการให้เจ้าหน้าที่ไปจับแล้วเพิ่มพื้นที่ป่า ท่านบอกวันนี้เอาที่ดินคืนมาได้เกือบ 2 แสนไร่ แต่ทุกปีการสำรวจจำนวนพื้นที่ป่าโดยคณะวนศาสตร์ ซึ่งใช้เทคโนโลยีสูงระดับโลก พบว่าพื้นที่ป่าหายทุกปี ปีละแสนไร่ แต่นายกฯบอกไปทวงคืนพื้นที่ป่า จึงเกิดคำถามว่าป่าเพิ่มได้อย่างไร ในเมื่อกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บอกว่าป่าลดลง ดังนั้น การได้พื้นที่ป่าคืนเพราะท่านไปรุกสิทธิทวงคืนจากกลุ่มชาติพันธุ์ และทวงคืนความเป็นคนจากคนจน สิ่งที่นายกฯไม่ทำเลยคือการเช่าป่าที่มีเป็นจำนวนมาก พอครบกำหนดนายกฯกลับไม่เอาคืน
“ถ้าจะไปสำรวจความเหลื่อมล้ำที่เป็นเงินในกระเป๋ารัฐมนตรีคงตรวจยาก แต่ถ้าตรวจเป็นที่ดินตรวจง่ายกว่า ประเทศใดถ้าปฏิรูปที่ดินไม่ได้ อย่าหวังว่าประเทศนั้นประชาชนจะอยู่ได้ เพราะที่ดินคือยุ้งฉางของเกษตรกร เกษตรกรคือยุ้งฉางของประเทศ ท่านพูดว่าเศรษฐกิจดี คือดีสำหรับคนที่อยู่ใกล้ชิดท่าน เพราะในวิกฤตโควิด – 19 คนรวยเป็นคนจน คนจนเป็นคนยิ่งจนลง สิ่งที่ไม่น่าเชื่อเมื่อดูตลาดหลักทรัพย์ช่วงก่อนโควิด – 19 มีบัญชี 2.7 ล้านคน แต่ตอนนี้เพิ่มเป็น 5 ล้านคน แต่ประชาชนดิ่งเอาๆ” พ.ต.อ.ทวี กล่าว