“เทพไท” โพสต์ภาพ “ชวน” ลงแรงทำความสะอาดพื้นสภาฯ สื่อนัยยะทางการเมือง? แนะชาวปชป.เร่งกู้ศักดิ์ศรีกลับมาให้เหมือนเดิม
วันที่ 22 ก.พ.65 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัว ข้อความว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้เห็นภาพนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร จับไม้กวาด ไม้ถูพื้น ทำความสะอาดพื้นของอาคารรัฐสภา ทำให้รู้สึกแปลกใจว่า ทำไมต้องให้นายชวน มาลงมือทำความสะอาดพื้นสภาเสียเอง แต่เมื่อสอบถามรายละเอียดแล้วพบว่า เป็นการจัดเตรียมสถานที่ เพื่อตั้งศาลพระสยามเทวาธิราช และศาลตายาย ประจำอาคารรัฐสภา ที่ได้จัดตั้งเมื่อวานที่ผ่านมานี้เอง
นายชวน ท่านได้มาดูความพร้อมของการจัดเตรียมสถานที่ จึงขอมีส่วนร่วมในการเตรียมสถานที่ในครั้งนี้ด้วย ภาพของนายชวนในการทำความสะอาดพื้นอาคารรัฐสภา นับว่าเป็นภาพที่สร้างความประทับใจของผู้คนจำนวนไม่น้อย ที่ได้เห็นภาพของนายชวน ที่เป็นนักการเมืองติดดิน สมถะ ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่ถือตัว และเป็นกันเองกับทุกคน นับว่าเป็นนักการเมืองที่เป็นแบบอย่างให้กับนักการเมืองรุ่นหลังได้ ในเรื่องของความซื่อสัตย์สุจริต เชื่อมั่นในระบบรัฐสภา และเคารพกฎหมายของบ้านเมืองอย่างเคร่งครัด
การที่นายชวนหลีกภัย ได้รับเลือกให้มาเป็นประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ ทำหน้าที่ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร นับว่าเป็นความโชคดีของการเมืองไทย ที่นายชวนได้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทำให้การทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติเป็นที่ยอมรับของประชาชน ซึ่งนับตั้งแต่วันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ายึดอำนาจ ทำให้ไม่มีนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เป็นเวลาหลายปี และเมื่อมีสภาชุดใหม่ก็เป็น ส.ส.ชุดใหม่ มีสัดส่วนเป็นคนใหม่มากกว่าคนเก่า มีความหลากหลายในหลายๆด้าน
สำหรับนายชวนการที่ได้รับเลือกให้กลับมาเป็นเป็นประธานสภาในครั้งที่ 2 ก็เปรียบเสมือนเป็นครูใหญ่ ที่คอยอบรม เตือนสติ ให้ข้อคิด และชี้แนวทางให้กับสมาชิกรัฐสภาทุกคน ทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง เปิดโอกาสให้ส.ส.ทุกคนที่ต้องใช้สิทธิ์ในการอภิปราย จะได้รับโอกาสอภิปรายกันอย่างทั่วถึง ด้วยวัยวุฒิ คุณวุฒิและประสบการณ์ รวมถึงบารมีทางการเมือง จึงเป็นที่ยอมรับของสมาชิกรัฐสภาทุกคน
ส่วนตัวยอมรับและศรัทธา ในแนวทางประชาธิปไตยสุจริต ของนานชวน มาโดยตลอด เพราะท่านคือปูชนียบุคคลของพรรค เป็นเสาหลักของบ้านเมือง พวกเราชาวประชาธิปัตย์ได้ตระหนักถึงคำพูดของท่านเสมอว่า วันนี้ ชื่อเสียงเกียรติภูมิของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้เป็นไปอย่างเดิมอีกแล้ว ดังนั้นชาวประชาธิปัตย์ทุกคน ต้องเร่งกอบกู้ศักดิ์ศรี เกียรติภูมิของพรรคกลับคืนมาให้จงได้