“เทพไท” ติง ส.ว.อย่าเป็น “ไอ้เข้” ขวางคลอง ตั้งธง คว่ำ พ.ร.ป. 2 ฉบับ แนะฟังเหตุผลก่อนตัดสินใจรับไม่รับ
วันที่ 23 ก.พ.65 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ในวันที่ 24 – 25 ก.พ.ว่า มีส.ส.เข้าชื่อเสนอรวม 10 ฉบับ แบ่งเป็นร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ… ที่ คณะรัฐมนตรี และ ส.ส.เข้าชื่อเสนอรวม 4 ฉบับ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่…) พ.ศ…. ที่ ครม. เสนอ และมีส.ส.เข้าชื่อเสนอรวม 6 ฉบับ ซึ่งมติวิปรัฐบาล ให้ยึดร่าง พ.ร.ป.ของรัฐบาล และร่าง พ.ร.ป.ที่เสนอโดยนายวิเชียร เชาวลิต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นหลัก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการพิจารณาร่างกฏหมายรวมกันหลายฉบับ ที่เสนอหลักการในทำนองเดียวกัน
ในการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีสมาชิกวุฒิสภาร่วมประชุมด้วยนั้น เสียงสนับสนุนของ ส.ว.เป็นเงื่อนไขสำคัญในการพิจารณา ซึ่งตอนนี้มี ส.ว.บางคน ได้ประกาศจุดยืนลงมติให้ผ่านเฉพาะร่าง พ.ร.ป.ของรัฐบาลเท่านั้น โดยตั้งธงคัดค้านร่าง พ.ร.ป.ที่เสนอโดย ส.ส. ทั้งพรรคฝ่ายค้านและพรรครัฐบาล
ส่วนตัวเห็นว่าการประกาศท่าทีดังกล่าวล่วงหน้า ทั้งที่ยังไม่ได้ฟังเหตุผลในการอภิปรายพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับเลย เป็นการตั้งป้อมคัดค้านร่าง พ.ร.ป.ล่วงหน้า ทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง ไม่ยอมให้ พ.ร.ป.ของ ส.ส.ทั้ง2ฝ่าย ผ่านมติไปได้ น่าจะเป็นเรื่องของอคติ มากกว่าเหตุผลในการพิจารณา ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการพิจารณากฎหมายที่เสนอโดย ส.ส. ซึ่งเป็นตัวแทนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง
อยากให้สมาชิกวุฒิสภา ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. ได้วางตัวเป็นกลาง รับฟังเหตุผลจากการอภิปรายของที่ประชุมเสียก่อน ก่อนที่จะมีมติใดๆออกมา เพราะสังคมส่วนใหญ่อยากเห็นร่าง พ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับ ได้ผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมร่วมสมาชิกรัฐสภาโดยเร็ว เพื่อจะได้เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาทางการเมืองของรัฐบาล เมื่อการเมืองระบบรัฐสภา หรือรัฐบาลเข้าสู่ทางตัน ก็สามารถยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน เพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งเป็นวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตย
