“รมว.สาธารณสุข” ยืนยันตราบใดที่ครม.ยังสนับสนุนงบโควิด จะไม่กระทบการรักษาประชาชน ยืนยันปมทบทวนยูเซ็ป ไม่ใช่เกมการเมือง
เมื่อวันที่ 23 ก.พ.65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันนี้ ว่า ทาง สธ. กรมควบคุมโรค จะมีการรายงานสถานการณ์โควิด-19 ให้ที่ประชุมรับทราบ เพื่อร่วมกันพิจารณาออกมาตรการควบคุมโรค แต่สิ่งที่ต้องเน้นย้ำตลอดคือ มาตรการป้องกันส่วนบุคคล และการเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง608
ขณะนี้ ข้อมูลทางคลินิกชัดเจนว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มากขึ้นนั้น แต่ส่วนใหญ่มีอาการน้อยหรือแทบไม่มีอาการ สามารถรักษาที่บ้านหรือในชุมชนได้ (Home and Community Isolation) สิ่งที่เราเน้นย้ำตรงนี้ ก็เพื่อเก็บเตียงและทรัพยากร บุคลากรแพทย์สำหรับผู้ป่วยโควิดที่มีอาการ และจำเป็นต้องใช้จริงๆ ส่วนการที่ ครม. ให้ทบทวนประกาศกระทรวงฯ ที่รัฐมนตรีว่าการ สธ. ลงนามแล้วในการกำหนดเกณฑ์รักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ฟรีตามสิทธิ และผู้ป่วยที่มีอาการสามารถใช้สิทธิเจ็บป่วยวิกฤตมีสิทธิทุกที่ (UCEP) นั้น ตามที่ทราบกันดีว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น อย่างวันนี้มีรายใหม่เพิ่ม 2 หมื่นราย เสียชีวิต 39 ราย แต่ตัวเลขตรงนี้ต้องย้ำว่า ผู้เสียชีวิตยังเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือรับไม่ครบ หรือยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น จึงเป็นที่มาว่าทำไมเราต้องวิงวอนให้ผู้สูงอายุไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ส่วนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นนั้นส่วนใหญ่เป็นคนวัยทำงานที่อาการน้อยหรือไม่มีอาการ ซึ่งอยู่ในกลุ่มสีเขียวสามารถเข้าระบบ HI/CI ได้ โดยที่เราต้องกำหนดเกณฑ์ผู้ป่วยวิกฤตโควิดในสิทธิยูเซ็ป เจตนารมณ์ก็เพื่อรักษาความมั่นคงของระบบสาธารณสุข โดยการรักษาโควิดขณะนี้อาการไม่รุนแรง ทีมแพทย์ก็ให้ความเชื่อมั่นว่าสามารถเข้าระบบ HI ได้ ดังนั้นหากไม่ฉุกเฉินก็สามารถใช้สิทธิสุขภาพของแต่ละคนได้ และไม่มีค่าใช้จ่ายเช่นเดิม ตนมองว่านี่เป็นจุดสำคัญของระบบสาธารณสุข อย่างไรแล้วเข้าใจความห่วงใยของ พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และครม. ทางกระทรวงฯ ก็พร้อมรับมาปฏิบัติ เร่งสร้างความเข้าใจกับประชาชนและเตรียมความพร้อมของระบบ ทั้งนี้ ตราบใดที่รัฐบาลยังสนับสนุนงบประมาณเพื่อรักษาโควิด-19 ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการรักษาของประชาชน
ส่วนเรื่องนี้เป็นเกมการเมือง ต้องเชื่อหนูหรือไม่ เพราะประกาศดังกล่าวมีการลงนามไปแล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่เกมเชื่อหนู แต่ต้องเชื่อหมอ เชื่อคนทำงาน การที่แพทย์ยืนยันว่า เตียงพร้อม ศักยภาพพร้อมดูแลประชาชนทุกคน ก็แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของคนทำงาน ถ้าแพทย์ไม่พร้อมจริงๆ เขาต้องบอกแน่นอน ตนในฐานะรัฐมนตรี ก็ต้องแปลงความเห็นเหล่านั้นนำมาสู่การปฏิบัติ