สภาเปิดเวทีถก 4 ร่างกม.เลือกตั้งส.ส.! “พปชร.-พท.-ก.ก.” เห็นต่างบัตรคนละเบอร์ ด้าน “ชินวรณ์” ตอกย้ำกลับไปใช้บัตรใบเดียวไม่ได้แล้ว ขณะที่ “วันชัย” บี้กกต.ใช้กม.จัดการแรงและเร็ว
วันที่ 24 ก.พ.65 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. จำนวน 4 ฉบับ และร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง จำนวน 6 ฉบับ
ทั้งนี้ที่ประชุมเริ่มต้นพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้เจ้าของร่างแต่ละฉบับชี้แจงหลักการและเหตุผลของตัวเอง โดยนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนครม. ชี้แจงว่า ร่างฉบับของครม.แก้ไขเพิ่มเติมในมาตรา 83 86และ91 เกี่ยวข้องเฉพาะการกำหนดส.ส.500คน แบ่งเป็นส.ส.เขต 400 คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน
ขณะที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทนชี้แจงร่างแก้ไขของพรรคเพื่อไทยว่า มี 31 ประเด็น เนื้อหาสำคัญอาทิ การใช้บัตร 2 ใบ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งของระบบการเมือง และใช้บัตรเลือกตั้งส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อเป็นเบอร์เดียวกัน เพื่อให้ประชาชนสับสน ส่วนการคำนวณคะแนนส.ส.บัญชีรายชื่อ เสนอให้เป็นสัดส่วนที่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับจำนวนคะแนนรวม ยอมรับเป็นเรื่องยากที่ร่างกฎหมายฝ่ายค้านจะได้รับความเห็นชอบ แต่ขอความกรุณาสมาชิกรัฐสภารับร่างพรรคเพื่อไทย นำไปพิจารณาร่วมกับร่างรัฐบาล ซึ่งไม่ขัดต่อหลักการที่จะปรับแก้ให้สอดคล้องกับร่างหลักมาก
ด้านนายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงหลักการของร่างแก้ไขพรรคพลังประชารัฐว่าเสนอแก้ไขให้มีส.ส.เขต 400 คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน และการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อในสัดส่วนที่สัมพันธ์กันโดยตรงกับจำนวนคะแนนรวม ขณะที่บัตรเลือกตั้งส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ เป็นคนละเบอร์ได้ เชื่อว่าประชาชนมีความสามารถ มีความเข้าใจว่า ใครเป็นคนดี เชื่อในวิจารณญาณประชาชนว่าจะตัดสินใจเลือกได้ การอ้างความสับสนหมายเลขนั้น ถือว่ามองประชาชนไม่มีความสามารถในการวินิจฉัย ประชาชนใช้ดุยลพินิจได้
ส่วนนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล เป็นตัวแทนชี้แจงร่างพรรคก้าวไกลว่า ร่างพรรคก้าวไกล ต้องการให้การเลือกตั้งสุจริตโปร่งใส มี 4 ข้อคือ1.บัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขต กับส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นเบอร์เดียวกัน ไม่ให้ประชาชนสับสน 2.กกต.ต้องโปร่งใส เปิดเผยคะแนนดิบรายหน่วยสู่สาธารณะ โดยไม่ต้องร้องขอ 3.แก้ปัญหาบัตรเขย่ง เรื่องคะแนนนอกราชอาณาจักร 4.แก้ปัญหาส.ส.ปัดเศษ ทำให้เกิดปัญหา ส.ส.รวมกลุ่มต่อรองทางการเมือง สภาล่มและอ่อนแอ ต้องป้องกันไม่ให้เกิดอาชีพรับจ้างทำพรรคการเมือง เป็นการทำลายระบบพรรคการเมือง
จากนั้นสมาชิกรัฐสภาได้แสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง โดยนายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลายคนได้ซักถามว่า หากร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่ผ่านจะเกิดอะไรขึ้น ได้ย้ำว่า ผ่านแน่นอน เพราะถ้าไม่ผ่านจะมีปัญหาแน่นอน แม้กกต.จะเสนอให้ครม.ออกพ.ร.ก.ได้ แต่กฎหมายที่ออกเป็นพ.ร.ก.ออกโดยฝ่ายบริหารฝ่ายเดียว จะมีความชอบธรรมและสุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่ จึงควรรับหลักการทุกฉบับ เพื่อนำไปแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์ในชั้นกมธ.ต่อไป ส่วนความพยายามที่จะกลับไปสู่บัตรใบเดียวเป็นไปไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญระบุชัด ให้ใช้กติกาบัตร 2ใบ จึงต้องทำให้การเลือกตั้งบัตร 2ใบ เกิดความสุจริตเที่ยงธรรม โดยเฉพาะเรื่องความชัดเจนเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งให้เกิดความเป็นธรรม ขณะที่การคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น ให้รวมผลคะแนนบัญชีรายชื่อทั่วประเทศ แล้วหาร100 ถือเป็นคะแนนเฉลี่ยต่อคะแนนส.ส.บัญชีราชื่อ 1คนของแต่ละพรรค
ด้านนายวันชัย สอนศิริ ส.ว. อภิปรายว่า ไม่ติดจากจะใช้บัตรใบเดียวหรือสองใบ หรือจะคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่ออย่างไร แต่สิ่งที่สนใจคือ ต้องทำให้การเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม แม้แต่การเลือกตั้งอบต.เล็กๆก็ใช้เงิน12-20 ล้านบาท ทั้งหมดนี้เป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของกกต.ต้องควบคุมการเลือกตั้งให้สุจริตเที่ยงธรรมให้ได้ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทำไม่ได้ เห็นกันจะๆคาตา บางคนบอกไม่อยากใช้เงินซื้อเสียง แต่ถ้าไม่ซื้อ ถ้าชั่วก็จะได้รับเลือกตั้ง เลยต้องซื้อเพื่อป้องกันคนชั่ว ดังนั้นกกต.มีความสำคัญที่สุดในการควบคุมการเลือกตั้ง ตราบใดที่ผู้บังคับใช้กฎหมายอ่อนแอ จะเป็นอย่างที่เห็น ทั้งนี้มาตรการเชิงรุกแก้ปัญหา ต้องแรงและเร็ว แต่กกต.ไม่เคยทำงานเชิงรุก การแก้กฎหมายครั้งนี้ ขอให้พิจารณากันให้ชัดเรื่องมาตรการป้องกันการทุจริตซื้อเสียงก่อนการเลือกตั้ง ไม่ใช่แค่เฉพาะคืนหมาหอน อยากให้กฎหมายนี้แรง และเร็ว
