“นิกร” เผยกมธ..แก้กม.ลูก 2 ฉบับยึดตามร่างหลัก ชี้คว่ำกฎหมายลูกคิดได้แต่ทำไม่ได้ เหตุเวลาสภาฯไม่พอ ส่อวุ่นวาย
วันที่ 27 ก.พ.65 นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ในฐานะกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.(ฉบับที่…) พ.ศ…… และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่..) พ.ศ….กล่าวถึงแนวทางการพิจารณาแก้กฎหมายลูกว่า คงไม่มีนัยะอะไรยึดตามร่างของคณะรัฐมนตรีเป็นหลัก ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะหลักการคือบัตร 2 ใบ แต่คนละเบอร์ ส่วนเรื่องการนับคะแนน คือ นำมารวม แล้วหารด้วย 100 เป็นคะแนนกลางและคิดว่าก็คงเป็นแบบนี้ไม่สามารถเป็นแบบอื่นได้ จึงคิดว่าไม่มีการเพิ่มเติมอะไร
นายนิกร กล่าวว่า ส่วนพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองเอาร่างของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งหลักสำคัญคือเรื่องไพรมารี่ กับตัวแทนเขต จากที่ได้ฟังการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาคิดว่าตัวแทนที่ประจำจังหวัดมีแห่งเดียวตามร่างของพรรคร่วมรัฐบาล ที่ให้บุคคลเพียงคนเดียวทำการแทนได้ เห็นว่าไม่น่าจะเหมาะเพราะไม่สามารถดูแลได้ทั้งจังหวัด ซึ่งตนเห็นด้วยกับการอภิปรายของส.ว. และพรรคฝ่ายค้าน ว่า ร่างของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นคนเดียวสามารถทำการแทนให้ทั้งจังหวัดนั้นน้อยไป จึงต้องไปแก้ในชั้นกรรมาธิการว่าให้เป็นคณะบุคคลอาจจะ 5 คน แต่ไม่ถึงขั้นให้เป็นสาขาที่ต้องมีสมาชิก 500 คน
เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการคว่ำกฎหมายลูก และถอยกลับไปแก้รัฐธรรมนูญ นายนิกร กล่าวว่า คิดได้แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะทางการเมืองทำไม่ได้ จะบอกกับประชาชนว่าอย่างไร หากกลับไปกลับมา และถ้าแก้รัฐธรรมนูญ เวลาสภาฯที่เหลืออยู่ไม่พอแน่ และหากจะมีการคว่ำจริงพรรคการเมืองจะให้คว่ำหรือ ซึ่งคำถามคือใครจะเป็นคนยกร่างเสนอแก้รัฐธรรมนูญ หากฝ่ายค้านยกร่างที่เสนอมาโดยประชาชน ฝ่ายค้าน อาจจะยิ่งวุ่นวาย นั่นหมายความว่าโดยกฎหมายทำได้ แต่โดยการเมือง และเวลาที่เหลืออยู่นั้นทำไม่ได้