“พนิต”ฝากผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ อย่าทิ้งงานกลางคืน ยกคดี “แตงโม”เป็นตัวอย่าง ที่เหตุการณ์เกิดเวลากลางคืนกลับไร้ผู้ว่าฯออกมาปฏิบัติหน้าที่
เมื่อวันที่ 20 มี.ค.65 นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเพจส่วนตัว “Panich Vikitsreth – พนิต วิกิตเศรษฐ์” เรื่อง “ภาวะผู้นำ ภายใต้วิกฤตความเชื่อมั่น” ว่า จากเหตุการณ์เกือบ 1 เดือนที่มีข่าวของ คุณแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ ดารานักแสดงชื่อดัง พลัดตกน้ำเสียชีวิต ในพื้นที่จ.นนทบุรี ในช่วงเวลา ประมาณ 22.40 น. และตำรวจได้รับแจ้งเหตุในเวลาประมาณ 23.00 น. ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับคดีมีความซับซ้อนและมีหลายปมที่ยังเป็นสิ่งที่ประชาชนให้ความสนใจ นับว่าเป็นคดีใหญ่คดีหนึ่ง
ทุกคนคงทราบกันดีว่า คดีนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ของจ.นนทบุรี แต่เรากลับไม่เห็นพ่อเมือง หรือผู้ว่าราชการจังหวัด ออกมาปฏิบัติหน้าที่ในการเร่งติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นคดีเล็กหรือคดีใหญ่ คดีคนดังหรือคนทั่วไป ก็ต้องได้รับความเป็นธรรมจากการดำเนินงานของภาครัฐในพื้นที่โดยเร็วที่สุด ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของพ่อเมือง หรือผู้ว่าราชการ ถึงแม้คดีจะเกิดในเวลากลางคืน ยิ่งทำให้เราเห็นได้ชัดว่า การที่รัฐมีผู้มีอำนาจในการสั่งการหรือมอบหมายให้ใครมาทำหน้าที่ในเวลากลางคืน และมี Center Command เพื่อที่จะสั่งการให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความรวดเร็ว
จากประสบการณ์เป็นรองผู้ว่าฯกทม. ปัญหาของประชาชน ไม่ได้มีแค่ตอนกลางวัน ช่วงเวลากลางคืนก็มีเยอะมากเช่นกัน ซึ่งวันนี้ ตน มีไอเดียว่า ถ้าเรามี ผู้ว่ากลางคืน ที่คอยดูแลแก้ไขปัญหาประชาชนได้ตลอด 24 ชม. เลย คงจะเป็นเรื่องที่ดีและควรมีอย่างยิ่ง เพราะไม่มีใครรู้ว่าในเวลากลางคืน จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าเรามีผู้มีอำนาจในการตัดสินใจในช่วงเวลาดังกล่าว จะทำให้การแก้ไข และการช่วยเหลือ จะทำได้รวดเร็วมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์นักกีฬาทีมฟุตบอลหมูป่า ที่ติดถ้ำนางนอน เราจะได้เห็นพ่อเมืองเชียงราย ลงพื้นที่เข้าไปบัญชาการในพื้นที่ เพื่อเร่งค้นหาและติดตามทีมหมูป่า จากเหตุการณ์ผู้ว่าหมูป่า คิดว่าทุกท่านคงยังจำเหตุการณ์นี้ได้ดี
ผู้ว่าหมูป่า ถือเป็นพ่อเมืองที่มีความเป็นผู้นำสูงมากจะเห็นได้จากเหตุการณ์ในการลงไปอยู่ในพื้นที่เพื่อค้นหาและบัญชาการการทำงานด้วยตนเองจนค้นหาทีมฟุตบอลหมูป่าพบ แต่ในส่วนของพ่อเมืองนนทบุรี กลับไม่ได้ออกมาหรือแสดงความเป็นผู้นำในการบัญชาการหรือติดตามการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ตนเอง
จากเหตุการณ์ทั้ง 2 สะท้อนให้เราเห็นว่า ภาวะผู้นำมีความสำคัญต่อความเชื่อมั่นของผู้ใต้บังคับบัญชาและประชาชนอย่างมาก หากผู้นำดีมีวิสัยทัศน์ และใจกว้าง ผู้ใต้บังคับบัญชาก็จะสนับสนุนและช่วยผลักดันในเรื่องต่าง ๆ แต่ในทางกลับกัน หากผู้นำไม่ดี ทีมงานทุกคนก็พร้อมจะเดินออกไป ไปอยู่ในที่ที่เขาควรอยู่และช่วยเหลือประชาชนของเขาได้จริงๆ