วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“ปชป.”โหมโรงปลุกใจผู้ว่าฯกทม.-ส.ก. “จุรินทร์”โวกระแสดีกว่า 3 ปีที่แล้ว
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ปชป.”โหมโรงปลุกใจผู้ว่าฯกทม.-ส.ก. “จุรินทร์”โวกระแสดีกว่า 3 ปีที่แล้ว

“ปชป.”โหมโรงปลุกใจ “ผู้ว่าฯกทม. –ส.ก.” “จุรินทร์” ชี้กระแสดีกว่า 3 ปีที่แล้ว ปัดส่งครบทุกเขตไม่ใช้แก้บนทางการเมือง มั่นใจทีมคุณภาพ ด้าน “เฉลิมชัย” ให้การบ้าน “ดร.เอ้” ออกนโยบายหมัดน็อคยึดคืน 50 เขต ขณะที่ “สุชัชวีร์” ไม่ท้อหลังเจอพายุการเมือง เหตุมีบ้านที่อบอุ่น ลั่นถ้าได้เป็นพ่อเมืองจะไม่นั่งติดโต๊ะเซ็นแฟ้มอย่างเดียว

วันที่ 21 มี.ค. 65 ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการจัดสัมมนาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.) และผู้อำนวยการศูนย์เลือกกตั้งผู้ว่าฯกทม. และส.ก.ประจำเขต โดยมีว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเปิดงานว่า พรรคประชาธิปัตย์ยุคนี้ถือเป็นยุคหนึ่งที่มีความพร้อมและได้เสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับคนกรุงเทพอีกครั้งหนึ่ง ความพร้อมของส.ก. พร้อมตั้งแต่ก่อนเปิดตัวผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่มาเป็นลำดับจนกระทั่งถึงวันเปิดตัว พร้อมทั้ง 50 เขต แม้ครั้งนี้ในกทม.จะไม่มีส.ส.เลย แต่เกือบสามปีที่ผ่านมา ได้พิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นทุ่มเท การทำงานที่พรรคได้เข้าไปร่วมเป็นรัฐบาลและในพื้นที่กทม. มีผลงานเป็นรูปธรรม จับต้องได้ ซึ่งไม่มียุคใดทำได้

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในสถานการณ์โควิด ว่าที่ผู้สมัครส.ก.ไม่เคยทิ้งชาวกทม. ลงพื้นที่สม่ำเสมอ เรานำถุงน้ำใจไปแจก จัดศูนย์ประสานเตียง แม้จนวันนี้ก็ยังไม่เลิกลา นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ว่าพรรคมุ่งมั่น ทุ่มเทเพื่อชาวกทม. จุดยืนทางการเมืองก็ชัดเจนไม่ต้องรอให้ใครมาถามว่ามีจุดยืนอย่างไร ประชาธิปัตย์ไม่เคยเขว ไม่เคยซ้ำเติมสถานการณ์ประเทศ จนตนมั่นใจว่าเราพิสูจน์ให้ชาวกทม.เห็นชัดแล้วว่าฝากผีฝากไข้ ฝากอนาคตไว้กับพรรคได้ จึงมั่นใจว่าเสียงตอบรับจากคนกรุงเทพฯดีขึ้น เมื่อเทียบกับสามปีที่ผ่านมา เราเดินขึ้น ไม่ได้เดินลง ดังนั้น การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และส.ก.ครั้งนี้ เรามีโอกาสไม่ใช่ส่งให้ครบ ส่งเพื่อแก้บนทางการเมือง แต่เราส่งเพราะเรามีโอกาส รวมทั้งนโยบายที่ปฏิบัติได้จริง ไม่ใช่นโยบายในอวกาศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำถ้านายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ของพรรค ได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ และจะบริหารแบบเดิมๆไม่ได้แล้ว

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ทีม ส.ก. ของพรรค เป็นคนคุณภาพ เพราะมาจากอดีตส.ก. ส.ข. และเลือดใหม่ มาจากอาชีพที่หลากหลาย ถ้าดูในแง่การศึกษาผู้สมัครของพรรคจบการศึกษาทั้งปริญญาเอก และปริญญาโท โดยมากกว่า50 เปอร์เซ็นต์จบปริญญาโทขึ้นไป จึงพิสูจน์ได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ส่งทางเลือกที่ดีที่สุดให้คนกรุงเทพ อย่างไรก็ตาม ส่วนผู้สมัคร ส.ก. ทั้ง 50 เขต ถ้าได้รับเลือกตั้งต้องทำหน้าที่มากกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่ต้องถูกกฎหมายเท่านั้น และส.ก. ของพรรค จะต้องเป็นส.ก.พลัส เนื่องจากก่อนหน้าได้ยกเลิกส.ข.ไปแล้ว ดังนั้น ส.ก.จึงต้องเข้ามาเติมเต็มตรงนี้ เพื่อให้คนกรุงเทพอุ่นใจ นี่คือคำมั่นสัญญาจากพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน ถ้าได้รับการเลือกตั้ง

จากนั้น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค บรรยายพิเศษ “รวมพลัง ปชป. สู่ชัยชนะ” ว่า พรรคมีโอกาสเตรียมตัวมากกว่าทุกคราว เพื่อแสดงให้เห็นว่าพรรคพร้อมเป็นตัวแทนชาวกทม.จริงๆ และได้ตัวผู้สมัครที่มีอนาคต ผู้ว่าฯกทม.ไม่ใช่โบนัสสุดท้ายของผู้เกษียณราชการ ไม่มีประโยชน์อะไรถ้าตัวผู้ว่าฯไม่มีความมุ่งมั่นในการบริหารราชการ ด้วยความเป็นสถาบัน มั่นใจว่ามีพื้นฐานคะแนนของพรรรครองรับอยู่แล้ว อยู่ที่พวกเราทุกคนต้องไปปลุกให้ประชาชนมาลงคะแนนให้พรรค ตนได้มอบโจทย์ให้นายสุชัชวีร์ว่าจะทำอย่างไรให้พรรคประชาธิปัตย์โผล่พรึ่บเดียวทั้ง 50 เขต ซึ่งได้มอบหมายให้นายสุชัชวีร์ไปดูนโยบายที่เป็นหมัดเด็ด ซึ่งถ้าได้เป็นสามารถผู้ว่าฯต้องทำได้ทันที และเป็นของแท้ ส่วนเทคนิคที่จะได้รับชัยชนะไม่มีใครทราบดีเท่าตัวผู้สมัครส.ก.ของแต่ละเขต ทั้งนี้ วันที่ได้เบอร์ พวกตนที่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคงไม่สามารถลงไปเดิน ไม่สามารถออกหน้าออกตาได้ แต่ด้วยความเป็นพรรคก็ยังต้องรับผิดชอบอยู่ เราจะไม่ทิ้งกัน เดินไปด้วยกัน มั่นใจการเลือกตั้งครั้งนี้เราจะสำเร็จแน่นอน และตนจะอยู่ใกล้ๆ ไม่ไปไหนไกล

ด้านนายสุชัชวีร์ กล่าวว่า อยากบอกกับทุกคนว่าที่นี่คือบ้านที่อบอุ่นที่สุด ตนเป็นวิศวะโยธา บ้านต้องมีเสาเข็ม ฐานราก เจอพายุ แต่ไม่ว่าจะเจอแรงปะทะเพียงใด มั่นใจว่าบ้านหลังนี้ยังเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนได้ตลอดไป ตนเจอแรงปะทะ เกมการเมืองถาโถมทุกรูปแบบ ถ้าคิดถึงตัวเองไม่ออกมายืนตรงนี้ เพราะสามเดือนที่แล้วมีครอบครัวเล็กๆที่อบอุ่ม มีงานที่มีเกียรติ แต่ที่ออกมาตรงนี้เพราะอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ต่อให้เจอพายุหนักเพียงใด ได้รับความไม่ธรรมนานับประการ ก็อยากจะบอกว่าอยู่ในบ้านที่อบอุ่นและมั่งคง ไม่มีวันท้อ และยิ่งมีความมุ่งมั่น มั่นใจเปลี่ยนกรุงเทพได้แน่ ตลอดสามเดือนลงพื้นที่ครบ 50 เขต เดินมาแล้วเกือบล้านก้าว ซึ่งเจอปัญหาจำนวนมาก ดังนั้น ถ้าได้เป็นผู้ว่าฯจะไม่นั่งติดโต๊ะ ติดแฟ้มอยู่ที่ศาลาว่าการฯ ซึ่งกทม.จะไม่มีทางเปลี่นนแปลงได้ ผู้ว่าฯต้องไปเหยียบกองขยะ เดินจนเท่าพลิก เข้าใจคลองทุกเส้นถ้าเกิดไม่รู้ว่าคูคลองเป็นอย่างไร มีปัญหาอะไร กทม.ก็เหมือนเดิม มีปัญหาซ้ำซาก และผู้ว่าต้องรู้จักคนในพื้นที่ เพราะทำงานคนเดียวไม่ได้แน่ ต้องทำงานร่วมกับส.ก. ทั้งนี้ ผู้ว่าฯของพรรคจึงต้องมาพร้อมกับส.ก .ที่มีความรู้อย่างลึกซึ้งและรู้จักพื้นที่

“จะเป็นผู้ว่าที่ขยันที่สุด มุ่งมั่นที่สุด และจะเอาชนะคนกรุงเทพให้เลือกผู้ว่าและส.ก. ของพรรค แบบยกทีม เพราะไม่มีทางที่ผู้ว่ามาเดี่ยวๆแล้วจะทราบปัญหา เมื่อวานฝนตก น้ำท่วมดินแดง ห้วยขวางจนถึงจตุจักร แสดงว่าสิ่งที่กทม.ทำ ไม่พอ วันนี้คนกรุงเทพเห็นเป็นประจักษ์ ว่าทีมผู้ว่าฯต้องเข้มแข็ง ดังนั้น ทั้งผู้ว่าและสก.เมื่อมาร่วมกันก็จะเป็นข้อพิสูจน์ ที่จะทำงานให้กับคนกรุงเทพ”นายสุชัชวีร์ กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img