สภาฯยันบุคคลทั่วไปใช้ลานประชาชนจัดกิจกรรมทางการเมือง-สังคมได้ แต่ต้องได้รับอนุญาตจากหัวหน้าส่วนราชการสังกัดรัฐสภาก่อน ยกเว้นพื้นที่หวงห้าม ส่วนพื้นที่อื่นรอส่งมอบ
วันที่ 25 มี.ค.65 ที่รัฐสภา ว่าที่เรือตรี ยุทธนา สำเภาเงิน ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ในฐานะโฆษกประจำสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงกรณีที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ประกาศเผยแพร่ระเบียบรัฐสภาว่าด้วยการบริหารจัดการพื้นที่และอาคารรัฐสภา พ.ศ. 2565 และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 15 มี.ค.65 ว่า เป็นระเบียบรัฐสภาที่จัดทำขึ้นใหม่ ภายหลังที่รัฐสภาได้ย้ายที่ตั้งมายังแยกเกียกกายแล้ว โดยมีหลักการสำคัญที่ต้องการให้การบริหารจัดการพื้นที่ของอาคารรัฐสภาเป็นได้ด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ ฃ
ซึ่งในระเบียบรัฐสภาได้กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารจัดการพื้นที่และอาคารรัฐสภา มีอำนาจหน้าที่ในการให้ความเห็นชอบแผนบริหารจัดการพื้นที่และอาคารรัฐสภาตามที่ส่วนราชการสังกัดรัฐสภาเสนอ ให้ข้อเสนอแนะและให้คำปรึกษาส่วนราชการสังกัดรัฐสภาในการบริหารจัดการพื้นที่ การตรวจสอบสภาพอาคารรัฐสภา รวมถึงระบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม ตลอดจนให้คำปรึกษาในการปรับปรุงโครงสร้างและอัตรากำลัง
โดยมีเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานกรรมการ เลขาธิการวุฒิสภา เป็นรองประธาน และกรรมการอื่น ๆ อีก 9 หน่วยงาน ได้แก่ อธิบดีกรมธนารักษ์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง ผู้แทนสภาวิศวกร ผู้แทนสภาสถาปนิก รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรหรือที่ปรึกษากำกับดูแลงานด้านการบริหารจัดการอาคารสถานที่ และรองเลขาธิการวุฒิสภาหรือที่ปรึกษาที่กำกับดูแลงาน ด้านการบริหารจัดการอาคารสถานที่
ส่วนหนึ่งที่จำเป็นต้องมีผู้แทนจากส่วนราชการภายนอกเข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย เนื่องจากอาคารรัฐสภาเป็นอาคารที่มีโครงสร้างทางวิศวกรรมขนาดใหญ่ มีระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย และความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรม รวมถึงความเข้มข้นในการรักษาความปลอดภัยให้เป็นไปตามมาตรฐาน และยังมีการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์และบริการ
ว่าที่เรือตรียุทธนา กล่าวว่า ระเบียบรัฐสภาดังกล่าวมีหลักการสำคัญอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางปฏิบัติในการให้บุคคลทั่วไปสามารถใช้งานพื้นที่ลานประชาชนเพื่อจัดกิจกรรมทางการเมืองหรือกิจกรรมทางสังคมได้ โดยต้องได้รับอนุญาตจากหัวหน้าส่วนราชการสังกัดรัฐสภาเสียก่อน เพื่อการดูแลความเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัย ซึ่งการรักษาความปลอดภัยในบริเวณพื้นที่และอาคารรัฐสภาจะดำเนินการโดยคำนึงถึงสิทธิของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในรูปแบบรัฐสภา
สำหรับพื้นที่โดยรอบอาคารรัฐสภานั้น เมื่อมีการรับมอบพื้นที่จากการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว จะเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงได้ ยกเว้นพื้นที่บางส่วนที่มีความจำเป็นต้องรักษาความปลอดภัยให้กับสมาชิกรัฐสภา บุคคล และอาคาร โดยส่วนราชการสังกัดรัฐสภาจะกำหนดเขตพื้นที่หวงห้ามไว้ รวมถึงมีการควบคุมตรวจสอบการผ่านเข้า-ออกของยานพาหนะ รวมถึงการตรวจสอบสัมภาระของบุคคล สิ่งของ จดหมาย พัสดุ อาหาร หรือสัมภาระอื่นใดที่จะนำเข้ามาในพื้นที่ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ หรือตรวจสอบทางกายภาพด้วย