“ประเสริฐ’ อัดรัฐอย่าเร่งผลักวิกฤตโควิดให้เป็นภาระปชช. ชิงประกาศเป็นโรคประจำถิ่น หวั่นหลังสงกรานต์ผู้ติดเชื้อ-ผู้เสียชีวิตพุ่ง ขณะที่รัฐไร้มาตรการรับมือที่ชัดเจน
เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 65 ที่พระวิหารหลวง วัดพระนารายณ์มหาราช จ.นครราชสีมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมทีมครอบครัวเพื่อไทยนครราชสีมา เข้าร่วมพิธีเททองหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พร้อมพูดคุยกับประชาชนเพื่อสอบถามถึงปัญหาความเดือดร้อนในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ซึ่งกำลังเป็นปัญหาในพื้นที่จ.นครราชสีมา นอกจากนี้ ครอบครัวเพื่อไทยจ.นครราชสีมา ยังร่วมกันเดินทางไปเยี่ยมเยียนครอบครัวผู้สูงอายุ ที่สถานสงเคราะห์คนชราบ้านธรรมปกรณ์โพธิ์กลาง มอบสิ่งของและเลี้ยงอาหาร พร้อมให้กำลังใจผู้สูงอายุ
นายประเสริฐ กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 วันนี้ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนไปทั่ว แต่รัฐบาลที่บริหารประเทศบกพร่อง ผิดพลาดมาโดยตลอด ไม่เพียงทำให้วิกฤตโรคระบาดหนักหน่วงมากกว่าที่ควรจะเป็น แต่ยังเป็นผลทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจปากท้อง จนประชาชนต้องทุกข์ยากแสนสาหัสมากกว่าเดิม การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำร้ายคนไทยมาเป็นปีที่ 3 แล้ว รัฐบาลยังไม่ควบคุมการระบาดได้ สถานการณ์ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น จำนวนผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้น ส่วนของผู้ติดเชื้ออยู่ระดับเกินหมื่นทุกวัน เจอ แจก จบ สุดท้ายประชาชนกลายคนเป็นที่ถูกทิ้งให้ จบเจ็บตายรายวัน ในทางวิชาการประเมินกันอย่างมากว่า โอมิครอนติดลมบน หลังสงกรานต์มีโอกาสระบาดรุนแรงเป็นไฟลามทุ่ง พุ่งออกจาก กทม.ไปสู่จังหวัดต่างๆ เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้มีมาตรการอะไรที่ชัดเจนในการรับมือการแพร่ระบาดช่วงเทศกาลที่มีการเคลื่อนย้ายผู้คนจำนวนมาก ผู้เสียชีวิตรายวันนิวไฮต่อเนื่อง ขยับจากหลักสิบใกล้แตะหลักร้อยเข้าไปทุกที ขณะที่รัฐบาลและศบค. พยายามยัดเยียดให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งสร้างความกังวลให้กับประชาชนไปทั่ว
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า รัฐบาลพยายามอย่างมากที่จะประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น แต่ไม่มีความพร้อมใดๆ ที่ผ่านมายังมีข่าวออกมาเป็นระยะว่าพี่น้องประชาชนเข้าไม่ถึงการรักษาพยาบาลและถูกปฏิเสธการรักษา ยิ่งในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งระบบการรักษาพยาบาลและการสาธารณสุขไม่ได้พร้อมสมบูรณ์ทุกพื้่นที่ ยิ่งสร้างความกังวลให้ประชาชน ดังนั้นรัฐบาลจึงควรพิจารณาการประกาศโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นให้รอบคอบ อย่าปล่อยให้เป็นการผลักวิกฤตปัญหาไปเป็นภาระประชาชนมากกว่านี้ เพราะจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมทุกข์ให้ประชาชน.