“อนุทิน”ชื่นชมศักยภาพภาคอีสานอุดมสมบูรณ์ เลี้ยงตัวเองได้ หล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจ ฝากคนในพื้นที่วางแผนใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐาน รบ. ลงทุนทางถนน-ทางรางสร้างอาชีพยกระดับรายได้
เมื่อวันที่ 3 เม.ย.65 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2565 ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 7 พร้อมกับเดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารผู้ป่วยนอก อ.บ้านไผ่ และตรวจราชการทั้งด้านธารณสุข ด้านคมนาคมขนส่งในพื้นที่ จ.ขอนแก่น
รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับข้าราชการ เอกชน ประชาชนในพื้นที่ที่มาต้อนรับระหว่างการลงพื้นที่ ว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน เป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพสูง ด้วยขนาดพื้นที่และจำนวนประชากรทำให้เป็นทั้งตลาด และที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมของผู้ประกอบการกลุ่มต่างๆ และขณะนี้ศักยภาพก็สูงขึ้นอีกด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ ที่รัฐบาลปัจจุบันได้ผลักดันลงทุน ทั้งการคมนาคมทางถนน ทางอากาศ ทางราง ที่มีทั้งรถไฟทางคู่ และกำลังพัฒนารถไฟความเร็วสูง ขณะที่เส้นทางการเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว ขณะนี้ก็สะดวกมากขึ้นด้วยสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ที่มีแล้วทั้งหมด 4 แห่ง จากเดิมมีเพียงแห่งเดียวที่จังหวัดหนองคาย และขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างแห่งที่ 5 ที่ จ.บึงกาฬ
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า ภาคอีสานได้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมาก เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ ไม่แห้งแล้งอีกต่อไป พื้นภูมิภาคที่หล่อเลี้ยงตัวเองได้ หล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจ และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทยสามารถขยายความก้าวหน้าได้
“ด้วยระบบคมนาคมขนส่ง การสาธารณสุข การปกครองส่วนท้องถิ่น ที่รัฐบาลได้กระจายออกไป ทำให้ขณะนี้ภาคอีสานเป็นภาคที่มีศักยภาพสูง ที่ จ.มุกดาหาร และ จ.นครพนม การค้าชายแดนไม่ต่ำกว่าปีละ 2 แสนล้าน จ.หนองคาย ไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้าน ส่วนที่ จ.บึงกาฬ ถ้าเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 ก็น่าจะไม่ต่ำกว่าปีละ 5 หมื่นล้าน ที่สำคัญคือ จ.นครพนม เลย ร้อยเอ็ด สกลนคร หนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ และ จ.ขอนแก่น มีถนน 4 เลน 6 เลน เชื่อมต่อกันหมด ฉะนั้น พี่น้องประชาชนต้องบอกตัวเอง ลูกหลาน หุ้นส่วนให้เตรียมคิดได้แล้วว่าเราจะใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพยกระดับรายได้จากระบบคมนาคมขนส่งที่เจริญก้าวหน้าขึ้น เครือข่ายจำนวนมากได้อย่างไร” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว