อีกแล้ว!! “ศรีสุวรรณ” จ่อร้อง “อธิบดีกรมป่าไม้” ตรวจสอบที่ดิน ภ.บ.ท.5 ของ 14 ส.ส.อยู่ในเขตป่าหรือไม่
วันที่ 21 เม.ย.65 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ศาลฎีกามีคำพิพากษากรณีการยึดถือครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.โดยไม่มีสิทธิของส.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ โดยตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตไปแล้วนั้น แต่เนื่องจากยังมี ส.ส.อีกอย่างน้อย 14 คน ที่แจ้ง ป.ป.ช.ว่ามีที่ดินประเภท ภบท.5 อยู่ด้วย ซึ่งที่ดินประเภทดังกล่าว เป็นเพียงเอกสารการเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภาษีดอกหญ้า) ซึ่งท้องถิ่นจะจัดเก็บ ไม่เกี่ยวกับว่าใครเป็นเจ้าของที่ดิน ไม่ใช่เอกสารแสดงสิทธิครอบครองที่ดิน เพราะเจ้าของที่ดินก็ยังคงเป็นของทางราชการอยู่ เพียงแต่อาจจะให้มีการใช้ประโยชน์ชั่วคราว แต่ไม่ถือว่าผู้ที่ใช้ประโยชน์นั้นเป็นเจ้าของที่ดิน ซึ่งปัจจุบันมีคำสั่งกรมการปกครองเมื่อปี 2551 ได้สั่งให้ยกเลิกการเก็บภาษีดังกล่าวแล้ว เพราะปัญหาคือ ส่วนมากเป็นที่ป่าสงวน การแจ้งเสียภาษีก็แจ้งกันเองโดยไม่รังวัด บางรายครอบครองเป็นร้อยเป็นพันไร่ บุกรุกป่าทั้งนั้น ซึ่งที่ดินประเภทดังกล่าว ไม่ใช่เอกสารสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดินแต่อย่างใด โดยมีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 676/2519 กำหนดบรรทัดฐานไว้ว่า “ผู้ที่มีชื่อในใบเสร็จเสียเงินบำรุงท้องที่เป็นเพียงหลักฐานแสดงว่าผู้นั้นเป็นผู้เสียภาษีเท่านั้น ไม่ใช่หลักฐานแสดงว่าผู้นั้นมีสิทธิครอบครอง”
การที่เหล่า ส.ส. อย่างน้อย 14 คนได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งปรากฏโดยชัดแจ้งว่ามีที่ดิน ภ.บ.ท.5 อยู่ด้วย จึงไม่ถือว่ามีฐานะยากจนหรือเป็นเกษตรกร หรือผู้ยากไร้ ซึ่งขัดหรือแย้งต่อ พรฎ.กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเป็นเกษตรกร พ.ศ.2535 โดยตรง
ดังนั้นสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำข้อมูลไปร้องเรียนอธิบดีกรมป่าไม้ เพื่อขอให้ตรวจสอบที่ดิน ภ.บ.ท.5 ของเหล่า ส.ส.ทั้ง 14 คนว่าอยู่ในที่ดินของรัฐ หรือในพื้นที่ป่าสวนแห่งชาติ หรือไม่ อย่างไร ในวันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2565 เวลา 9.30 น. ณ กรมป่าไม้ ถ.พหลโยธิน จตุจักร กทม.