วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightคลิปฉาว“แรมโบ้” จี้นายกฯตั้งกก.สอบ “จุรีพร”ส่อทำผิดกม.2 ฉบับ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

คลิปฉาว“แรมโบ้” จี้นายกฯตั้งกก.สอบ “จุรีพร”ส่อทำผิดกม.2 ฉบับ

“ทนายเชาว์” เจาะ ปมคลิปฉาว “แรมโบ้” ตั้ง 4 ข้อสังเกต “จุรีพร” เปิดลำโพงให้กิ๊กฟัง ต่อยอดคุยโควต้าลอตเตอรี่-ใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาประโยชน์มิชอบจากลอตเตอรี่หรือเปล่า จี้นายกฯตั้งกรรมการสอบคนของตัวเองด่วน แนะ “จุรีพร” ลาออก เลิกรับเงิน 28,260 บาท จากภาษีปชช. ส่อทำผิดกฎหมาย 2 ฉบับ

วันที่ 21 เม.ย.65 นายเชาว์ มีขวด ทนายความอาสา อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง เจาะคดีคลิปฉาว สัมพันธ์สามเส้า แรมโบ้อีสาน-จุรีพร-กิ๊ก มีเนื้อหาระบุว่า หลังเกิดคลิปฉาวพัวพันเงิน 15 ล้านบาท ใช้หาเสียงเลือกตั้งส.ส.ในปี 2562 มีตัวละครเกี่ยวข้องในบทสนทนา 2 คน คือ นายเสกสกล อัตถาวงษ์ หรือ แรมโบ้อีสาน ซึ่งขณะนี้ลาออกจาก 2 ตำแหน่งสำคัญ คือผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และประธานคณะอนุกรรมการแก้ปัญหาสลากราคาแพง กับนางจุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกฯ หลังคลิปนี้เผยแพร่ออกมา และมีการระบุคนชื่อ กิ๊ก คือผู้ที่แอบอัดเสียง ผมมีข้อสงสัย 4 ประเด็น ที่ส่อผิดกฎหมาย 2 บทบัญญัติ 1. ทำไม จุรีพร จึงต้องเปิดลำโพงให้คนอื่นฟังบทสนทนานี้ ทั้งที่เรื่องที่พูดคุยกันเป็นความลับ 2. กิ๊ก เกี่ยวพันอย่างไรกับเรื่องนี้ 3. น้อง ที่ จุรีพร พูดถึงว่าจะไปเอาเงิน 5 กิโลมาให้ แรมโบ้อีสาน คือใคร 4. ทำไมแรมโบ้อีสาน ไม่มีการสอบถามเลยว่า น้องคนนั้นคือใคร หรือรู้อยู่แล้วว่าหมายถึงน้องคนไหน เพราะในบทสนทนาไม่ได้มีการเอ่ยชื่อถึง ทั้ง 4 ประเด็นจะนำไปสู่ความผิดกฎหมาย 2 บทบัญญัติด้วยกันคือ 1. มีการใช้เงินหาเสียงมากกว่าที่กฎหมายกำหนด 1.5 ล้าน ในปี 2562 หรือไม่ 2. มีการใช้อำนาจหน้าที่เรียก รับ ทรัพย์สินเพื่อเอื้อประโยชน์เกี่ยวกับโควตาลอตเตอรี่หรือไม่

นายเชาว์ กล่าวต่อว่า ทุกอย่างเริ่มคลี่คลายเหมือนต่อจิ๊กซอมาเกือบครบ เมื่อนายสุดสยาม มากแก้ว หรือ กิ๊ก เดินทางไปพบตำรวจ สน.ดุสิต เพื่อให้ปากคำกรณีถูกแจ้งความดำเนินคดีว่าเป็นผู้อัดคลิปและนำไปเผยแพร่ โดยเจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และให้ข้อมูลว่า ก่อนที่จะไปรับประทานอาหารกับนางจุรีพร ได้ไปพบแรมโบ้อีสานมาก่อน เพราะอยากได้โควตาลอตเตอรี่ ซึ่งเรื่องนี้ก็สอดรับกับสิ่งที่แรมโบ้อีสาน ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ของหมาแก่ แมวสาว (20 เม.ย.) โดยแรมโบ้อีสาน เล่าว่า เขาเปิดโอกาสให้จุรีพรและสามีเข้าพบ ในวันที่ 28 มีนาคม พูดคุยเรื่องโควตาลอตเตอรี่ แต่ยืนยันว่าช่วยเหลือไม่ได้ โดยในวันนั้นมีผู้ที่ต้องการเข้าพบด้วยเรื่องนี้มากกว่า 10 คน แต่ไม่ได้ให้ใครเข้าพบเลย นอกจากจุรีพร และยอมรับว่าได้พบนายกิ๊กด้วย แต่แค่เข้ามาลา โดยไม่ได้มีการพูดคุย แม้แต่หน้าก็จำไม่ได้ เมื่อนางจุรีพร เดินทางกลับ จึงได้โทรศัพท์ไปพูดคุยด้วย จนเกิดเป็นคลิปฉาวออกมา ซึ่งเจ้าตัวยังยืนยันเป็นการพูดเล่น

หลังนำข้อมูลมาชนกัน ก็ชัดเจนว่า มีการคุยเรื่องโควตาลอตเตอรี่ กิ๊กได้พบแรมโบ้อีสาน จนทำให้คลายข้อสงสัย จึงอยากให้ผู้มีอำนาจตามกฎหมายตรวจสอบ สิ่งที่ผมตั้งข้อสังเกตไว้ด้วย คือ

  1. 1.สาเหตุที่จุรีพร เปิดลำโพงให้ กิ๊ก ฟัง เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องจากเรื่องโควตาลอตเตอรี่ ที่คุยกันไว้ใช่หรือไม่
  2. 2.น้องที่ จุรีพร พูดถึง คือ กิ๊ก ใช่หรือไม่ ที่พร้อมให้เงิน แลกกับการดูแลลอตเตอรี่ แรมโบ้อีสาน ไม่สงสัยว่า น้องคือใคร เพราะรู้อยู่แล้วว่าคือ กิ๊ก คนที่ไปคุยเรื่องโควตาลอตเตอรี่ใช่หรือไม่
  3. 3.เป็นการเรียกรับเงินแบบเนียน ๆ โดยใช้จุรีพร เป็นทางผ่านใช่หรือไม่

ซึ่งหากเป็นไปตามที่ผมตั้งข้อสังเกต ผู้ที่เข้าข่ายกระทำผิดในฐานะข้าราชการการเมืองมีสองคน คือ แรมโบ้อีสาน และจุรีพร ส่วนนายกิ๊ก ผมยกประโยชน์ให้กันไว้เป็นพยาน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เกี่ยวพันกับการทุจริต อีกทั้งเป็นคนใกล้ตัวนายกฯทั้งคู่ เนื่องจากทำงานในสำนักนายกรัฐมนตรี ความจริง นายกฯ ควรมีการตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่ใช่ปล่อยทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติการร้องเรียนของสังคม ทั้ง ๆ ที่เป็นหน้าที่นายกฯต้องทำความจริงให้กระจ่าง กับปัญหาที่เกิดขึ้นกับบุคคลในปกครองของตัวเอง แต่น่าเสียดายที่นายกฯไม่ได้ทำอะไรเลย ที่สำคัญ จุรีพร ควรต้องออกจากตำแหน่งทันที เหมือนกับแรมโบ้อีสาน ไม่ใช่ยังอยู่ในตำแหน่งเดิมแบบไม่รู้ร้อน รู้หนาว และสังคมก็ไม่ควรปล่อยผ่านเรื่องนี้ เพียงแค่ชื่อ จุรีพร ไม่ได้ติดตลาดเหมือนแรมโบ้อีสาน เพราะผู้หญิงคนนี้รับเงินเดือนจากภาษีประชาชนทุกเดือน เดือนละ 25,410 บาท บวกเงินประจำตำแหน่งอีก 2,850 บาท รวม 28,260 บาท

“ผมจึงอยากฝากเรื่องนี้ถึงผู้มีอำนาจไว้ 3 เรื่อง คือ 1.นายกฯต้องตั้งกรรมการกลางสอบข้อเท็จจริงสองขรก.การเมืองในสังกัดของท่านทันที 2. จุรีพร ต้องออกจากตำแหน่งทันที จนกว่าการตรวจสอบจะเสร็จสิ้น และ 3. สอบสวนประเด็นความผิดที่ผมตั้งข้อสังเกตที่เกี่ยวข้องเกี่ยวข้องกับจุรีพร สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงฉากหนึ่งในวังวันของคนที่อยู่กับอำนาจ ซึ่งเชื่อได้ว่าพฤติกรรมลักษณะนี้ อาจเกิดขึ้นอีกกับหลายคนในหลายหน่วยงาน เพราะผลประโยชน์คือ สิ่งเร้า ให้คนทำงานการเมืองหลงผิดได้โดยง่าย หากไม่มีความหนักแน่น และไร้ซึ่งความสุจริต พบเจอเมื่อไหร่ ต้องกำจัดออกไป”นายเชาว์ กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img