มติ “ชาติพัฒนา”มติแต่งตั้ง “สุวัจน์”ลั่น ชาติพัฒนา Come Back” เตรียมหวนคืนความยิ่งใหญ่ ยึดโคราชเป็นเรือนตาย ชู 7 นโยบายแก้ปัญหามหาวิกฤตประเทศ
วันที่ 23 เม.ย.2565 ห้องประชุมลำปลายมาศ โรงแรมแคนทารี่โคราช พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) จัดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2565 โดยมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา พร้อมด้วย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา และสมาชิกพรรคชาติพัฒนา จำนวน 290 คน ร่วมประชุมและรับฟังบรรยายสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและการเมืองภายใต้หัวข้อ “ทางออกของประเทศภายหลังการเลือกตั้ง” รวมถึงการลงคะแนนเลือกตั้งประธานพรรค และคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคทั้ง 4 ด้าน
โดยที่ประชุมใหญ่มีมติเลือกตั้ง นายสุวัจน์ เป็นประธานพรรคชาติพัฒนา ซึ่งตำแหน่งประธานพรรค จะเป็นประธานของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านเทคโนโลยี เพื่อจัดทำนโยบายและข้อเสนอแนะในการบริหารงานของพรรคชาติพัฒนาให้ทันกับการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองและสร้างความอยู่ดี กินดี ให้กับพี่น้องประชาชน
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนต้องขอขอบพระคุณท่านหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกทุกท่านที่ได้กรุณาให้เกียรติและไว้วางใจผมให้รับตำแหน่ง “ประธานพรรค” ของพรรคชาติพัฒนา จากการที่ได้มีการแก้ไขข้อบังคับพรรค เพื่อปรับปรุงโครงสร้างการทำงานของพรรคชาติพัฒนาให้สอดคล้องกับภาวะปัญหาและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของปัจจัยต่างๆ ของโลกรอบตัวเรา และปัญหาต่างๆ ภายในประเทศ เพื่อให้พรรคชาติพัฒนามีขีดความสามารถในการทำงานทางการเมือง โดยโครงสร้างพรรคใหม่ ภายใต้ข้อบังคับที่มีการแก้ไขวันนี้ ก็จะเพิ่มเติมให้มีโครงสร้างของคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคมีทั้งหมด 4 คณะ คือ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคมท้องถิ่นและการเมือง ด้านเทคโนโลยี และด้านการเมือง
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ประธานพรรค เป็นประธานของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ทั้งหมด ซึ่งหน้าที่ของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ก็จะคล้ายๆ กับบริษัทใหญ่ๆ ที่จะมีคณะผู้บริหารและบอร์ดใหญ่ โดยบอร์ดใหญ่จะดูแลเรื่องนโยบายต่างๆ มอบให้กับคณะผู้บริหารรับไปพิจารณาเป็นแนวทางการบริหาร คณะผู้บริหารของพรรคก็จะมีหัวหน้าพรรคเป็นผู้รับผิดชอบร่วมกับกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการยุทธศาสตร์ก็จะทำหน้าที่คล้ายบอร์ดนโยบายที่จะประกอบด้วยผู้อาวุโส มีประสบการณ์เยอะๆ นักวิชาการต่างๆ มาร่วมกันคิดยุทธศาสตร์และนโยบาย ที่จะนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาของประเทศและของประชาชนให้ลุล่วง โดยมอบยุทธศาสตร์และนโยบายให้หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรครับไปเป็นแนวทางในการทำงานต่อไป
นายสุวัจน์ กล่าวว่า “ทางออกประเทศหลังการเลือกตั้ง” หมายถึง งานและนโยบายต่างๆ ที่จะต้องดำเนินการกันอย่างจริงจัง เพื่อกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจกลับมาและให้เติบโตอย่างยั่งยืน สร้าง Plat Form ใหม่ ไม่ให้เราเสียเปรียบ แข่งขันบนจุดแข็งที่เรามีอยู่และสามารถรักษาขีดความสามารถด้านการแข่งขันของเราไว้ได้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดี มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มีความรักสามัคคีเกิดขึ้นในชาติบ้านเมืองของเรา เมืองไทยเรากลับมามีรอยยิ้มเหมือนเดิม รักกันเหมือนเดิม มีความสุขเหมือนเดิม และสิ่งที่เราควรจะทำกันเพื่อให้ประเทศชาติของเรามีทางออกมีหลายประเด็นที่อยากเสนอให้พวกเราช่วยกันคิด ช่วยกันทำ รวม 7 เรื่อง คือ 1.ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องและดูแลผลกระทบจากโควิด (Post Covid) 2.ใช้เทคโนโลยีมาสร้างความทันสมัยให้กับประเทศ 3.เศรษฐกิจต้องเติบโตบนจุดแข็ง เป็น Plat Form ใหม่ของเศรษฐกิจไทย 4.ท้องถิ่นต้องเข้มแข็ง สร้างความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ 5.ผู้สูงอายุ คือ กำลังของประเทศ 6.เตรียมพร้อมรองรับปัญหาโลกร้อน (Global Climate Change) และ 7. การเมืองทางออกสุดท้ายของประเทศ ต้องมีเสถียรภาพ คุณภาพ เสียสละ ลดความขัดแย้ง
นายสุวัจน์ กล่าวย้ำว่า พรรคชาติพัฒนามีความตั้งใจที่จะเข้ามาช่วยกันทำงานในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้พี่น้องประชาชน จากประสบการณ์และบุคลากรของพรรคที่เคยทำมาแล้ว โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ประสบความสำเร็จในช่วงที่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีต ส.ส.โคราชเป็นนายกรัฐมนตรี “เศรษฐกิจยุคทอง แปรสนามรบเป็นสนามการค้า โคราชประตูสู่อีสาน อีสานประตูสู่อินโดจีน” เราพร้อมที่จะทำงานและเชื่อมั่นว่าเราทำได้ เราเคยทำมาแล้ว เราจะทำต่อไปเพื่อพี่น้องประชาชนชาวไทย ขอให้ไว้วางใจพรรคชาติพัฒนา
“พรรคชาติพัฒนา เกิดที่โคราช ถึงมีคำว่าโคราชชาติพัฒนา มีคำว่าตนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน เกิดที่โคราชก็ต้องตายที่โคราช พรรคชาติพัฒนาขอยึดเอาโคราชไว้เป็นเรือนตาย ขอ Come back อีกครั้งเพื่อรับใช้ชาวโคราช” ประธานพรรค กล่าว