“ราเมศ” สวน “พิธา” นัดประชาชนมาไม่ออกไปรับนส. บิดเบือนโยนบาปให้ส.ส.คนอื่นรับผิดชอบ สอนนัดแล้วต้องจัดห้องรับรอง ควรมีจิตสำนึกในการดูแลประชาชน อย่าหวังปย.การเมืองอย่างเดียว
วันที่ 28 พ.ค.65 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะเลขานุการประธานรัฐสภา ตอบโต้กรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ปล่อยให้ประชาชนเดินทางมาที่สภาผู้แทนราษฏรเพื่อผลักดันสวัสดิการถ้วนหน้าแต่ไม่มีการดูแลให้นั่งตากแดดรอนอกสภาว่า เป็นการบิดเบือนเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทำให้สภาฯเกิดความเสียหาย และมีผลกระทบไปถึง ส.ส.คนอื่นๆด้วยว่าไม่สนใจใยดีประชาชนให้ไปนั่งตากแดดรอฟังผลการพิจารณาของสภาในเรื่องสวัสดิการ เพราะจุดประสงค์เดียวนายพิธาพยายามบิดเบือนความจริงให้เกิดวาทะกรรม เกิดความเสียหายต่อองค์กรและเพื่อน ส.ส.คนอื่นๆ ตนได้รับมอบหมายจากประธานรัฐสภา ให้ไปรับหนังสือจากกลุ่มประชาชน ซึ่งมีการนัดหมายกันรับหนังสือที่จุดรับหนังสือซึ่งเป็นสถานที่ที่เตรียมไว้สำหรับประขาชนในการมายื่นเรื่องร้องเรียนหรือยื่นหนังสือต่างๆ
นายราเมศ กล่าวว่า ในการยื่นหนังสือของกลุ่มประชาชนดังกล่าวได้นัดหมาย ส.ส.พรรคก้าวไกลมาเป็นตัวแทนยื่นหนังสือต่อประธานรัฐสภาแต่ ตนและประชาชนรออยู่นานจนไม่มี ส.ส.พรรคก้าวไกลลงมา ประชาชนจึงตัดสินใจยื่นหนังสือโดยมีตัวแทนกลุ่มยื่นหนังสือต่อประธานรัฐสภาเอง ทั้งๆที่ ส.ส.พรรคก้าวไกลเป็นคนนัดมาเอง ตนได้ให้การต้อนรับและพูดคุยรับฟังประชาชนมีสื่อมวลชนเป็นพยานได้ ส่วนประชาชนบางส่วนก็กระจายกันอยู่ในบริเวณโดยรอบของสภาฯซึ่งบ่อยครั้งที่ประชาชนเดินทางมาเป็นจำนวนเกือบสองร้อยคนก็จะอยู่บริเวณรอบๆสภา แล้วจะมีตัวแทนยื่นหนังสือดำเนินการแทนเว้นแต่ ส.ส.ได้นัดมาก็จะมีการเตรียมห้องประชุมของพรรคหรือห้องประชุมคณะกรรมาธิการห้องใหญ่เพื่อพบปะพูดคุยกับประชาชน
นายราเมศ กล่าวต่อว่า นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ย้ำเสมอในเรื่องการดูแลพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาสภา ต้องให้การต้อนรับอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสภาฯก็มีนโยบายชัดในเรื่องดังกล่าว ไม่เว้นแม้แต่กิริยาวาจาที่จะต้องมีความสุภาพให้เกียรติประชาชนเพราะประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของสภาฯ แต่นายพิธาและ ส.ส.พรรคก้าวไกล พยายามพูดเพียงเพื่อประโยชน์ในทางการเมือง ถ้ามีความจริงใจต่อประชาชนจริง ก็น่าจะทำเหมือนที่ ส.ส.คนอื่นๆคือเมื่อเป็นคนพาประชาชนมาเขาก็จะไปเปิดห้องประชุมในส่วนของพรรคชั้น 6 หรือขออนุญาตใช้ห้องประชุม ที่มีห้องที่รองรับประชาชนได้ในการเสวนาพูดคุยอยู่แล้ว หลายพรรคก็ได้ดำเนินการไปในแนวทางนี้ แต่ทั้งหมดอยู่ที่จิตสำนึกของคนเป็น ส.ส. บางคน หากคิดเพียงประโยชน์ในทางการเมืองของตนก็จะไม่พยายามดูแลประชาชนแต่พยายามฉกฉวยโอกาสจากประชาชน