วันพุธ, มิถุนายน 26, 2024
หน้าแรกNEWS“บิ๊กตู่”โวยฝ่ายค้านใช้เวทีสภาหาเสียง เจอสวนกลับดูถูกสภา-ไม่เหมาะเป็นนายกฯ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“บิ๊กตู่”โวยฝ่ายค้านใช้เวทีสภาหาเสียง เจอสวนกลับดูถูกสภา-ไม่เหมาะเป็นนายกฯ

“นายกฯ”อารมณ์ขึ้นโวย “ฝ่ายค้าน” ใช้เวทีอภิปรายงบฯ หาเสียง พร้อมไม่ได้ขูดรีดประชาชน ยันทำตามขั้นตอนจัดทำงบ เจอ “พิธา-ชลน่าน” ประท้วงดูถูกสภาไม่เหมาะเป็นนายกฯ แนะคนเขียนโพยอย่าใส่อารมณ์ ทำให้ “ประยุทธ์”แจงอารมณ์ขึ้นไปด้วย

วันที่ 1 มิ.ย.65 ที่รัฐสภา มีการประชุมสสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วงเงิน 3,185 ล้านล้านบาท เป็นวันสอง จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ชี้แจงว่า ตนฟังการอภิปรายของส.ส. ขอขอบคุณในคำอภิปรายของ ส.ส. ซึ่งตนเข้าใจดี และคิดว่ามีความมุ่งหวังให้ประเทศไทยก้าวหน้าเติบโต แต่จากการนั่งฟังไปงงๆ ว่าเป็นการพิจารณางบประมาณ ปี 66 หรืองบของพรรคการเมืองใหม่ ที่ไม่ได้เป็นรัฐบาลเวลานี้ ดังนั้นอย่าใช้โอกาสหาเสียง ผิดเวที ยืนยันว่าการจัดสรรงบประมาณต้องการแก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้ารายครัวเรือน เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน สถานการณ์ตอนนี้ที่ต้องมองร่วมกันคือ ทำอย่างไรให้อยู่รอด รัฐบาลขณะนี้ลำบากไม่ใช่สบาย ทุกคนทำงานเต็มที่ ที่ปรากฎคือมีผลสำเร็จหลายอย่าง หากพูดว่า ไม่มีอะไรดีขึ้น ไม่เป็นธรรม ประชาชนจะไม่เข้าใจ สำหรับการจัดเก็บรายได้ของรัฐขณะนี้ไม่ได้เพิ่มอัตราภาษี ยังเก็บที่ 10% เพราะไทยยังไม่เข้มแข็งเพียงพอ ส่วนที่บอกว่ารัฐบาลหารายได้ไม่เป็นขอให้มองย้อนไปหลายปีที่ตนเข้ามาเป็นรัฐบาล สิ่งที่ทำคือ สร้างโอกาสและความเท่าเทียม ขณะเดียวกันได้สร้างการลงทุนต่างๆ วางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพื่อแก้ปัญหาบริหารราชการ โควิด-19 และเตรียมใช้ในการแก้ปัญหาการบริหารราชการ

“การวางโครงสร้างต้องทำกฎหมายใหม่ แก้กฎหมายหลายฉบับ ไม่ใช่นึกจะทำ ก็ทำได้หมด ต้องอยู่บนระเบียบกฎหมาย ปฏิรูปกฎหมาย หากกฎหมายใดเป็นประโยชน์ต่อแผ่นดิน ต่อประชาชนขอให้ช่วยผ่านเร็วๆ อย่าขัดแย้งกัน ขณะที่มีข้อเสนอเกี่ยวกับการลดข้าราชการ ผมให้นโยบายแล้วต้องลด การบรรจุข้าราชการใหม่ ซึ่งอยู่ในแผนของก.พ. และที่บอกว่าผมรีดภาษี ผมรีดกับใครหรือยัง สิ่งที่ผมพูดไม่มีใครฟัง หาทางโจมตีให้มากที่สุด ไม่เช่นนั้นประชาชนจะตายหมด หากท่านได้เป็นรัฐบาลต้องทำแบบผม เพื่อให้ประชาชนร่วมมือ ผมไม่โทษใคร แต่หลายอย่างต้องร่วมมือ เข้าใจคำว่าร่วมมือหรือไม่ สิ่งที่ไม่ดี ไม่เห็นด้วยรับไปพิจารณา ส่วนการทำงบประมาณ รับมาจากส่วนท้องถิ่น จังหวัด กระทรวง ทบวง กรม สภาพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจแห่งชาติ เพื่อกำหนดเป็นงบประมาณ ขณะที่ร้ฐบาลกำหนดเป็นนโยบายเพื่อสอดคล้อง ผมไม่ปฏิเสธโครงการที่รับเข้ามา เมื่อหน่วยงานข้างล่างเสนอ รัฐบาลต้องตรวจสอบ คัดกรอง ไม่เช่นนั้นติดคุก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าา พล.อ.ประยุทธ์ ยังชี้แจงในหลายประเด็นที่ถูกอภิปรายพาดพิงในงบประมาณที่ไม่ตอบโจทย์และไม่แก้ปัญหาประชาชน ก่อนทิ้งท้ายว่า “ผมพอแค่นี้ หากจะให้ผมพูด สามารถพูดได้ทั้งวัน เพราะผมทำเอง ทำกับมือ ใช้คณะทำงานเป็นร้อย มีคณะทำงานจากข้างล่าง ไม่ใช่คิดคนเดียว หรือคิดสิบคน ยังไม่ต้องประท้วงผมตอนนี้ ขอบคุณ สวัสดีครับ” จากนั้นได้ลุกออกจากห้องประชุมทันที

จากนั้นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ใช้สิทธิพาดพิงว่า สภาฯ ถูกใช้เป็นเวทีหาเสียง โดยพรรคการเมืองที่ไม่เป็นรัฐบาล ข้อเท็จจริงเป็นเวทีพิทักษ์ภาษีประชาชน หากจะติอย่างเดียวไม่มีสิ่งใหม่นำเสนอ จะถูกมองว่าใช้เป็นเวทีการเมือง ดังนั้นจึงนำเสนอสิ่งใหม่ และตัวอย่างจากต่างประเทศเพื่อให้รัฐบาลได้เห็น และไม่ต้องกลัว หากถึงเวลาของพวกตนเมื่อไร จะทำแน่นอน

ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประท้วงนายกฯว่า นายกฯ กล่าวหาสภาฯ ให้ร้าย ป้ายสีทำให้เสียหาย หากตีความคำพูดของนายกฯ คือ รัฐสภาผิดทั้งหมดต่อการเปรียบเทียบการทำงบประมาณ ทั้งนี้ในหน้าที่ของสภาฯ คือ สามารถปรับลดงบประมาณ และอนุมัติงบประมาณ นายกฯ ไม่ควรแสดงภาวะโยนผิดให้คนอื่น แม้หน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติยังล่วงเกิน ไม่เหมาะจะเป็นนายกฯ หากจะตอบในสภา และฝากบอกคนเขียนโพยให้นายกฯด้วยอย่าเขียนโดยใส่อารมณ์มาด้วย เพราะทำให้นายกฯ ตอบมีอารมณ์

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img