“เพื่อไทย” ซัด “บิ๊กตู่” ทำลายการศึกษา บีบยุบ “ร.ร.ขนาดเล็ก” ตั้งโรงเรียนพิเศษ ขณะที่ “บิ๊กตู่” สวนทันควันยันรับผิดชอบทุกอย่าง ชี้ปรับวิธีทันต่อเทคโนโลยี เรียนให้ตรงตามความต้องการประเทศ ขอให้เข้าใจบ้าง บางครั้งอารมณ์รุนแรง เพราะเป็นมนุษย์คนหนึ่ง
วันที่ 1 มิ.ย.65 ที่รัฐสภา มีการประชุมสสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วงเงิน 3,185 ล้านล้านบาท เป็นวันสอง
ต่อมานายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายถึงงบฯกระทรวงศึกษาธิการตอนหนึ่งว่า ว่าการที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าพูดอะไร ส.ส.ก็ไม่ฟัง ก็แสดงว่า ส.ส.ไม่นั่งอยู่แปลว่าไม่ฟัง แต่ตอนนี้ตนเองพูดนายกฯ ก็ไม่นั่งฟัง ซึ่งจริงๆ แล้วเราฟัง เห็นทั้งกิริยาท่าทางของนายกฯ แต่ท่านไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ฟังแล้วก็ไม่รู้จักเปลี่ยนแปลง เวลาทำงบประมาณก็ไม่รู้สึกรู้สาต่อสถานการณ์ มาตอบในสภาเหมือนไม่รับผิดชอบบอกว่าไม่ได้ทำเอง ถ้าไม่อยากรับผิดชอบกับงบที่แถลงมา และในเอกสารก็ลาออกไป แล้วให้คนอื่นเขามารับผิดชอบ นอกจากนี้นายกฯทำลายวิชาชีพครู ทำลายโรงเรียนขนาดเล็ก ไม่จัดงบฯไป ไม่ส่งผู้บริหารไป ซึ่งในกฎหมายเขียนชัดให้ยุบโรงเรียนที่ไม่มีคุณภาพ แล้วจะมีครูได้อย่างไรในเมื่อท่านไม่ส่งไป 15,000โรงเรียน กำลังจะถูกทำลาย ซึ่งในงบฯก็ไม่มีงบฯให้ เท่ากับเป็นการบีบใช่หรือไม่ รัฐบาลกำลังจะยุบเขา นี่คือสิ่งเลวร้ายที่กำลังทำลายการศึกษาของชาติ
“ฝากนายกฯว่า การศึกษาสร้างคน คนสร้างชาติ ถ้าระบบการศึกษาล้มเหลว ท่านจะสร้างชาติได้อย่างไร ท่านถึงทำงานเหนื่อย เหนื่อยแล้วไม่มีผลงาน เหนื่อยแล้วแย่ อยู่ทำไมอยู่ให้เขาด่า ดังนั้นงบฯกระทรวงศึกษาฯ ท่านต้องนำกลับไปปรับปรุงใหม่ได้หรือไม่ กระบวนการปฏิรูปกระทรวงศึกษาอย่านำไปสร้างแต่อาคาร ทำไมไม่มีเงินให้ครูซื้ออุปกรณ์ และยังตั้งโรงเรียนพิเศษขึ้นมาทำไม เป็นรัฐบาลที่ไม่เข้าใจระบบการศึกษา และยังให้ยุบกองทุนเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา รัฐบาลท่านต้องรับผิดชอบ ผมทำการเมืองมา 40 ปี ท่านทำมา 4 ปี ขอบอกในฐานะผู้อาวุโสกว่าทางการเมือง อย่ามาพูดว่าส.ส.ไม่ฟังท่าน แล้วท่านฟังส.ส.มั้ย” นายขจิตร กล่าว
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ลุกตอบโต้ว่า ที่กล่าวหาว่า ตนไม่รับผิดชอบ ไม่ใช่แบบนั้น ตนพูดถึงว่าตนทำงานต้องฟังจากคณะทำงานทุกคณะ ความรับผิดชอบอย่างไรนายกฯก็ต้องรับผิดชอบไม่หนีไปไหน เรื่องของการศึกษารัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จะเห็นว่าอยู่ในหัวข้อหลักของยุทธศาสตร์ชาติ1ใน6ข้อ และที่สำคัญคือจะทำอย่างไรให้มันมีคุณภาพยิ่งขึ้น วันนี้ต้องพัฒนาทั้งครูโรงเรียนพัฒนาถึงงบประมาณที่จะดูแลเด็ก ส่วนที่กล่าวหาว่าตนทำลายระบบการศึกษานั้นต้องมองในอีกแง่หนึ่งว่า สิ่งที่เราทำไปแล้วต้องมีการเปลี่ยนแปลงบ้างหรือไม่ การที่มีโรงเรียนคุณภาพประจำตำบลนั้น วัตถุประสงค์หลักก็คือจะทำให้มาตรฐานการเรียนการสอนสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นเพราะเรามีโรงเรียนหลายหมื่นโรงเรียนด้วยกัน ซึ่งบางโรงเรียนมีเด็กน้อย มีครูน้อย จึงไม่เพียงพอเราจึงต้องจัดตั้งโรงเรียนประเภทนี้ขึ้นมาเพื่อให้ลดภาระในการออกเดินทางไปเรียนหนังสือในจังหวัดอื่นๆที่ห่างไกลห่างไกล
“หากเราสามารถทำในเรื่องนี้ได้ โรงเรียนที่มีคุณภาพมีห้องที่ทันสมัยมีเทคโนโลยี มีสนามกีฬาสนามเด็กเล่นที่เพียงพอ ก็ต้องไปดูว่าโรงเรียนใดที่จะเข้าข่ายพัฒนาปรับปรุงได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปยุบทิ้งทั้งหมดในขณะนี้ เดี๋ยวทางครู นักเรียนจะไม่เข้าใจ ผมให้ความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ เราต้องปรับวิธีการสอนการเรียนรู้ใหม่ให้ทันต่อเทคโนโลยี คือเรียนให้ตรงกับความต้องการของประเทศ เรียนไปแล้วสามารถหางานทำได้จริง เป็นสิ่งที่เรามุ่งหวัง ส่วนหนึ่งที่งบฯของกระทรวงศึกษาธิการลดลงเนื่องจากจำนวนเด็กนักเรียนลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนที่เข้าสู่ระบบการศึกษาคือเด็กเกิดใหม่น้อยลงซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่อยากให้ทราบ ยืนยันว่าจะสนับสนุนทุกอย่างและหากมีปัญหาอะไรที่เกิดขึ้นตนก็มีงบกลางที่จะสนับสนุนให้งบประมาณของทุกกระทรวงที่ถูกปรับลด”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การที่จะนั่งอยู่หรือไม่นั่งอยู่ในที่ประชุม เป็นนายกฯ มีความรับผิดชอบ มีการบันทึกสรุปว่าใครอภิปรายว่าอย่างไร และควรจะชี้แจงตรงไหนอย่างไร ทุกอย่างถูกบันทึกหมดและอ่านตลอดเวลา ถึงแม้จะทำงานอื่นอยู่ด้วยก็ตาม เช่นวันนี้มีภารกิจสำคัญอีกอย่างคือการรับการเยือนของนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนลาว งานก็ไม่ได้หยุดนิ่ง และคณะทำงานอยู่ที่นี่ พร้อมชี้แจง บางเรื่องให้รัฐมนตรีช่วยชี้แจงด้วย ยืนยันพร้อมสนับสนุนในส่วนของงบกลางถ้าเรามีเพียงพอ และไม่มีปัญหาภัยพิบัติ ปัญหาสาธารณสุขและอื่นๆ พร้อมพิจารณาสนับสนุนงบให้ ซึ่งท่านก็ทราบดีอยู่แล้วว่ารายได้เราจำกัด
“ผมรับผิดชอบทุกอย่างอยู่แล้ว ผมยืนยันว่าผมไม่เคยท้อและผมก็ทำงานทุกวัน ผมมีความรับผิดชอบและผมจะไม่ก้าวก่าย ผมจะไม่สั่งการอะไรที่มันเกิดประโยชน์กับตัวเอง หรือกับใคร ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตามระเบียบและขั้นตอนทุกประการ และทั้งหมดผมรับผิดชอบในภาพใหญ่อยู่แล้ว จะดีจะชั่วผมก็ต้องรับอยู่แล้ว ผมไม่หนีท่านหรอก ขอยืนยัน และอยากให้ทุกคนเข้าใจในบางครั้งผมรู้ ผมทราบดีว่าผมค่อนข้างจะอารมณ์แรงนิดหนึ่งบางครั้ง เพราะผมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกัน ผมพยายามระวังอย่างที่สุดในการที่จะพูดจาตรงนี้ และต้องขอขอบคุณในส่วนที่เป็นคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ก็จะรับไปแก้ไขปรับปรุงในขั้นตอนหลังจากงบผ่านไปแล้วในชั้นกมธ.ออกมา ที่สามารถปฏิบัติได้ ถ้าไม่ผ่านก็แล้วแต่ ค่อยไปว่ากันเพราะประชาชนรออยู่ว่าเราจะทำอะไรใหม่ให้เขาได้อีก เราจะดูแลเขาต่อไปได้หรือไม่”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
