นายกรัฐมนตรียืนยันการฉีกปฏิญญาร่วมไทย-กัมพูชาเป็นไปตามหลักอธิปไตยของชาติ ย้ำ “Do it My Way” ไทยจะดำเนินการในแนวทางของตน พร้อมเผยมีแผนด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศครบถ้วนแล้วแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.68 ที่อาคารอเนกประสงค์ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการยกเลิกข้อตกลงผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หรือ “ปฏิญญาร่วมเพื่อสันติภาพและความมั่นคง” ว่าประเทศไทยจะต้องเดินหน้าด้วยแนวทางของตนเอง โดยกล่าวว่า
“มันไม่มี 4 ข้อนั้นแล้ว จะมีข้อที่ประเทศไทยต้องดำเนินการ – Do it My Way (ดู อิท มาย เวย์)… ไม่รู้จะพูดอย่างไร”
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ไทยพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ แม้จะมีมาตรการทางเศรษฐกิจหรือภาษีจากประเทศคู่ค้า เช่น มาตรการภาษีของสหรัฐฯ (ที่ถูกเรียกขานว่า “ภาษีทรัมป์”) โดยยืนยันว่าประเทศไทยในฐานะประเทศที่พึ่งพารายได้จากการส่งออก ต้องพัฒนาคุณภาพสินค้าและแสวงหาตลาดใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและไม่ให้สิ่งใดมาละเมิดอธิปไตยของชาติได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการชี้แจงต่อสหรัฐอเมริกาในฐานะผู้สังเกตการณ์ที่ร่วมลงนามในปฏิญญาฯ นายอนุทินระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศอยู่ระหว่างดำเนินการในเรื่องนี้
ส่วนกรณีที่สังคมมีทั้งฝ่ายต้องการให้ “สู้รบให้จบโดยเด็ดขาด” และฝ่ายที่กังวลจะเกิดการสู้รบ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลมีแผนปฏิบัติด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศพร้อมอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดต่อสาธารณะได้ โดยย้ำว่า
“ทุกอย่างมีอยู่ในแผนการดำเนินการทั้งหมด เพื่อประโยชน์สูงสุดต่ออธิปไตย ความปลอดภัยของประชาชน และเกียรติศักดิ์ของทหารและเจ้าหน้าที่ที่ปกป้องแผ่นดิน”
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ขณะนี้มีการเตรียมกำลังทางทหารไว้พร้อมแล้วหรือไม่ นายอนุทินเพียงพยักหน้าก่อนกล่าวสั้น ๆ ว่า
“แน่นอนครับ…”






































