‘ชัชชาติ’ เผยไม่ได้รับเชิญไปร่วมงานเปิดท่าเรือท่าช้าง-สาธร ที่นายกฯเป็นเปิดงานวอนอย่าโยงเป็นประเด็นการเมือง ยอมรับเห็นข่าวแล้วตกใจ ยืนยันไม่รู้จริงๆ
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 65 ที่ห้องนพรัตน์ ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 7/2565 ว่า ที่ประชุมวันนี้ได้มีการพิจารณาเรื่องการถอดหน้ากากอนามัย ซึ่งคิดว่าถึงเวลาที่จะผ่อนคลายได้แล้ว ประกอบกับมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และในหลายประเทศก็มีการถอดหน้ากากอนามัยแล้ว ทั้งนี้ จากสถานการณ์โรคโควิด-19 ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลง อยู่ในเกณฑ์ผ่อนผันได้ จึงเสนอถอดแมสเน้นพื้นที่เสี่ยงต่ำ ตามความสมัครใจ เช่นพื้นที่สาธารณะ พื้นที่โล่งแจ้ง ที่ผู้คนไม่หนาแน่น ระยะห่างไม่เกิน 1 เมตร ยกเว้นบางพื้นที่ที่หนาแน่น ตลาดนัด สนามกีฬา สนาม้า ที่มีคนดู คนกลุ่มเสี่ยง 608 และคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ พวกนี้ยังต้องใส่หน้ากากอนามัย ส่วนโรคฝีดาษลิง ขณะนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม จะเสนอที่ประชุม ศบค.กทม. ในวันที่ 9 มิ.ย. 65 ก่อนเสนอที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ที่มี นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน วันที่ 17 มิ.ย. 65
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเช้านายกฯ ไปเปิดท่าเรือ ท่าช้าง-สาทร ซึ่งเป็นโครงการเชื่อมการเดินทางล้อ ราง เรือ ของกทม. ในอดีตก็มีผู้ว่าฯ กทม.ไปร่วมงาน ทำไมไม่ไปกลายเป็นประเด็น นายชัชชาติ กล่าวว่า ไม่มีใครเชิญมา ไม่รู้เรื่อง ถามปลัดแล้วไม่มีหนังสือเชิญ ถ้าเชิญมาไปแน่นอน เพราะเป็นนโยบาย ตนไม่ทราบเรื่องจริง ๆ อย่าเอาไปเป็นประเด็นการเมืองเลย ถ้าไม่มีหนังสือเชิญแล้วตนไปคงแปลก เพราะกทม.ไม่ใช่เจ้าภาพ คงมีการคัดเลือกคนที่เหมาะสมไปยอมรับตกใจที่เห็นข่าว แต่ตนไม่รู้เรื่องจริง ๆ
ถามต่อว่า การทำงานเมื่อเช้าของผู้ว่าฯ และนายกฯ มีการไลฟ์สดพร้อมกัน และมีการเปรียบยอดคนไลฟ์ของนายกฯ น้อยกว่า รู้สึกอย่างไร นายชัชชาติ กล่าวว่า อย่าเอามาเปรียบเทียบกัน เรื่องยอดไลค์อย่าเอามาเป็นตัววัดเลย ถือว่าเป็นการสื่อสารกับประชาชน เราทำหน้าของเรา เพราะเราเป็นผู้น้อย ท่านเป็นผู้ใหญ่ อย่าเอามาเปรียบเทียบกัน ต่างคนต่างทำงาน
ด้าน นพ.ฉันชาย สิทธิพันธ์ุ ผอ.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พี่ชายฝาแฝดของนายชัชชาติ หนึ่งในคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม. กล่าวว่า มาในฐานะกรรมการ และมีแพทย์จาก รพ.ประชุมหลายคน ตนมาให้ข้อมูลด้านเทคนิค หากดูตัวเลขการติดเชื้อของประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ในขณะนี้ ตามเกณฑ์ต่างประเทศถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำ การแพร่กระจายในชุมชนน่าจะผ่อนผันการถอดหน้ากากอนามัย โดยจะเน้นการเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน และทำอย่างไรไม่ให้กลุ่มเสี่ยงมีโอกาสติดเชื้อ ทั้งนี้ การผ่อนผันต้องเน้นตามสถานที่และกลุ่มเสี่ยงของผู้ที่ปฏิบัติด้วย คิดว่าเห็นด้วยกับแนวทางที่จะดำเนินการในวันนี้
