“เทพไท” ยินดีกับ ภท. ผลักดัน “กัญชาเสรี” สำเร็จ ยก 7 เหตุผลเตือนระวังอย่าให้ถอยหลังเป็นยาเสพติดอีก
วันที่ 9 มิ.ย.65 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ Facebookส่วนตัว ข้อความว่า ขอแสดงความยินดีกับพรรคภูมิใจไทย ที่สามารถผลักดันนโยบายกัญชาเสรี ที่ใช้ในการหาเสียงจนเป็นผลสำเร็จ จะได้ไม่ต้องถูกข้อครหาว่าใช้นโยบายหาเสียงแล้วทำไม่สำเร็จ และขอแสดงความยินดีกับผู้นิยมกัญชา ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากกัญชาในในรูปแบบต่างๆด้วย แม้ว่าตนจะไม่สามารถเข้าไปอภิปราย หรือแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ แต่เมื่อเห็นผลการลงมติที่เห็นชอบกับร่าง พรบ.กัญชา กัญชง อย่างท่วมท้น ก็อดกังวลต่ออนาคตของการใช้ประโยชน์จากกัญชาไม่ได้
นายเทพไท กล่าวว่า ยังมีข้อกังวลที่อยากจะฝากไว้ให้ช่วยกันขบคิด และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นมา แล้วค่อยมาแก้ไขภายหลัง ในลักษณะวัวหายล้อมคอก ดังนี้ 1.การจดแจ้งผ่านแอปพลิเคชั่น “ปลูกกัญ” ถือว่าเป็นระบบที่ควบคุมการปลูกพืชกัญชาที่ละหลวม เป็นแค่การจดแจ้ง ไม่มีมาตรการลงโทษการกระทำผิดเงื่อนไขที่ชัดเจน
2.การปลูกพืชกัญชาโดยไม่จำกัดจำนวน และไม่กำหนดพื้นที่ จะทำให้พืชกัญชากระจายแพร่หลายได้มาก โดยไม่สามารถควบคุมปริมาณกัญชาได้
3.การเสพกัญชาหรือสูบกัญชา สามารถทำได้ภายในบ้าน แต่ไม่สามารถสูบได้ในที่สาธารณะซึ่งจะเป็นการรบกวนบุคคลอื่น และเป็นความผิดนั้น การสูบภายในบ้านเป็นที่มิดชิด ปกปิด ควบคุมได้ยาก จะเป็นปัญหาต่อผู้บริโภค
4.การกำหนดห้ามจำหน่ายให้กับเด็กอายุไม่เกิน 20 ปี สตรีมีครรภ์ หญิงให้นมบุตร แต่ถ้าหากบุคคลเหล่านี้ไม่ได้ซื้อ หรือจำหน่าย แต่เป็นการปลุกเอง ก็สามารถหลีกเลี่ยงความผิดได้
5.ข้อห้ามสารสกัดกัญชาที่มี THC เกิน 0.2% เป็นความผิด เป็นเงื่อนไขที่ชาวบ้านวัดค่า THC ได้ยาก เพราะต้องใช้เครื่องตรวจวัดค่า THC 6.ข้อกำหนดการใช้กัญชาทางการแพทย์ แต่ห้ามใช้สันทนาการ จะมีปัญหาในทางปฏิบัติอย่างมาก จะมีความลักลั่นตีความว่า การสูบกัญชาหรือการใช้กัญชาอย่างไร จะถือว่าเป็นการสันทนาการที่ผิดกฎหมายหรือไม่ 7.เมื่อแนวทางปฏิบัติควบคุมการกระทำผิดเกี่ยวกับกัญชา ที่ไม่มีความชัดเจน ก็จะใช้ดุลพินิจในการจับกุม ซึ่งจะเป็นช่องทางในการหาประโยชน์ของเจ้าหน้าที่รัฐ
“ผมเกรงว่ามาตรการควบคุมการใช้กัญชาอย่างเสรีแบบเลยเถิด จะก่อให้เกิดปัญหาทางสังคมตามาในภายหลัง จนต้องเจอแรงกดดันจากต่างประเทศ ที่ยังมีกฎหมายกำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติด จะเรียกร้องให้รัฐบาลไทยควบคุมการใช้กัญชา จนต้องถอยหลังกลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการปลดล็อคกัญชากับพืชกระท่อม ออกจากบัญชียาเสพติด มีความแตกต่างกัน เพราะกัญชายังเกี่ยวข้องกับอนุสัญญาเดี่ยวกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ยังระบุให้กัญชาเป็นเยาเสพติด ตรงนี้จะขัดกับกฎหมายระหว่างประเทศหรือไม่ แต่พืชกระท่อมไม่ได้เกี่ยวข้องกับอนุสัญญาใดๆ เพราะเป็นพืชพื้นถิ่น สามารถปลดล็อค และใช้ประโยชน์จากพืชกระท่อมได้อย่างเต็มที่ขออย่าคิดว่าผมทำตัวเป็นไอ้เข้ขวางคลอง เรื่องการปลดล็อคกัญชานะครับ แต่เป็นความห่วงใยอนาคตของบ้านเมืองด้วยความบริสุทธิ์ใจเท่านั้นเอง”นายเทพไท กล่าว