“เรืองไกร” ซัด “ชลน่าน- ส.ส.” ลงมติตัดงบลงทุน 300 กว่าคน อุ้ม ส.ว. ไม่ผิดแค่โหวตผ่าน และไม่ทันเกมสภาฯ เตือนนายกฯ กำชับหน่วยรับงบฯอย่ายอมให้กมธ.ตัด จนผิดวินัยการเงินฯ
วันที่ 28 มิ.ย.65 ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 กล่าวถึงกรณีที่ยื่นหนังสือร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ พร้อม ส.ส.รายอื่นๆ ที่เห็นชอบให้ปรับลดงบลงทุน ปี 2565 จนต่ำกว่า 20% ว่าเข้าข่ายมีความผิดตามรัฐธรรมนูญ ม.234(1) หรือไม่นั้นว่า เนื่องจากนพ.ชลน่านเป็นผู้นำฝ่ายค้าน และเป็นผู้อภิปรายงบประมาณ 2566 ในวันแรกว่าการปรับลดนั้นขัดวินัยการเงินการคลังมาตรา 20 และนพ.ชลน่านพูดชัดว่าการปรับลดก็ทำไม่ได้ จึงเป็นเหตุให้ตนซึ่งเป็นเคยกมธ. งบประมาณปี 2565ด้วยได้ย้อนไปดูข้อมูลจนพบว่า มีการปรับลดรายจ่ายลงทุนทั้งสิ้น 1.2 หมื่นล้านบาท ทำให้เหลืองบลงทุน 19.74% ของวงเงินงบประมาณกลาง โดยทางกมธ. เสียงข้างมาก รวมทั้งพรรคเพื่อไทยเห็นด้วย
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า แปลกใจในการอภิปราย เพราะเมื่อไปย้อนดูผลการลงมติวาระ 2 ของงบประมาณปี 2565 จำนวนส.ส.300 กว่าคน หนึ่งในนั้นมีนพ.ชลน่านลงมติเห็นด้วย ตนจึงแปลกใจว่าทำไมเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมาจึงบอกว่าเป็นการขัดต่อวินัยการเงินการคลัง ตนจึงขอให้ ป.ป.ช. สอบผู้นำฝ่ายค้าน จากนั้นสอบส.ส.อีก 300 กว่าคน รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ยินยอมให้ปรับลดงบประมาณในห้องอนุกมธ. เพราะงบดังกล่าวถูกตัดในห้อง อนุกมธ. ซึ่งตนไม่ได้เป็นอนุกมธ. นอกจากนี้พรรคก้าวไกล ยังเห็นด้วยเรื่องการปรับลด เพียงแต่เห็นแย้งว่าไม่ให้นำไปใช้ในงบโควิด-19 ตอนนั้นจึงเป็นปัญหาระหว่างทั้งสองพรรค เพราะพรรคก้าวไกลเห็นว่าเป็นการไปตีเช็คเปล่าให้นายกฯ จำนวน 1.6 หมื่นล้านบาท
นายเรืองไกร กล่าวว่า ส่วนการที่ไปกล่าวหา ส.ว. นั้นตนคิดว่าไม่ถูกต้อง เพราะการพิจารณางบประมาณ ทางส.ว.ไม่มีอำนาจปรับลด มีอำนาจเพียงแค่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยเท่านั้นภายในระยะเวลา 20 วัน ดังน้ันหากจะกล่าวหาว่ามิชอบด้วยวินัยการเงินการคลัง ก็ต้องสอบข้อเท็จจริงจากนพ.ชลน่าน เพราะเป็นส.ส. มาแล้วหลายสมัย เคยเป็นรัฐมนตรี ปัจจุบันเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีฐานะเป็นผู้นำฝ่ายค้านฯ น้ำหนักคำพูดถือเป็นเรื่องสำคัญ สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ชี้แจงยืนยันว่าได้ตั้งงบลงทุนเกิน 20% แต่ฝ่ายนิติบัญญัติเป็นคนตัดในชั้นอนุกมธ. ทำให้มีคนเข้าใจและพาดพิงว่าเป็นการตัดงบลงทุนในวาระ 2-3 คนที่วิจารณ์อาจจะไม่เข้าใจขั้นตอนกระบวนการพิจารณากฎหมายของสภาฯ อย่างถ่องแท้ อย่างไรก็ตามช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้ยื่นหนังสือถึงนายกฯ เพื่อขอให้แจ้งและกำชับไปยังหน่วยรับงบประมาณว่าอย่าไปยอมรับการตัดงบประมาณ เพราะอาจจะถูกกล่าวหาเหมือนปี 2565 เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมายวินัยการเงินการคลัง มาตรา 20 (1)
