“สายัณห์” ตั้งฉายา “สงครามครั้งสุดท้าย” งัดตำราพิชัยสงครามรับมือศึกซักฟอก จัดทัพหลวง-ทัพหลัง-ปีกซ้าย-ปีกขวา” ดรีมทีม เป็น “องครักษ์พิทักษ์รัฐมนตรี” แบ่งหน้าที่ชัดเจน หวังให้เป็นไปตามข้อบังคับ เย้ยฝ่ายค้าน ไม่มีหมัดเด็ดมีแค่หมัดแย็บ ไล่เร่งไปหาข้อมูลอย่าโม้ เย้ยขอเวลา 5 วัน เชื่อรัฐบาลมีผลงาน “โจ ไบเดน” ยังฝากนายกฯไทยช่วยเหลือสหรัฐ- เป็นนายกอันดับ 1 ของโลก
วันที่ 29 มิ.ย.65 ที่รัฐสภา นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการตั้งทีมองครักษ์พิทักษ์นายกในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เป็นการตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบฝ่ายค้านหากมีการอภิปรายนอกกรอบ โดยตนขอใช้ฉายาว่า เป็นสงครามครั้งสุดท้าย และคิดว่าเมื่อฝ่ายค้านมีหลักว่าจะล้มรัฐบาลในการสอยนั่งร้านคือพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย ตนก็จะใช้ตำราพิชัยสงครามโดยมีตนเป็นทัพหน้า พรรคประชาธิปัตย์เป็นปีกซ้าย พรรคภูมิใจไทยเป็นปีกขวา ขณะที่นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล จะเป็นทัพหลวง และมีนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย เป็นทัพหลัง เพื่อคอยระวังหลังไม่ให้ฝ่ายค้านอภิปรายเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือล่วงล้ำไปเรื่องส่วนตัว ใส่ร้ายป้ายสี พูดจาวกวนซ้ำซาก เราอยากฟังฝ่ายค้านอภิปรายในหลักการว่ารัฐบาลบริหารประเทศมา 3 ปีกว่า รัฐบาลไม่ดีตรงไหน ทุจริตตรงไหน บริหารประเทศไม่ก้าวหน้าอย่างไร ไม่ใช่เหมือนที่ผ่านมาที่ฝ่ายค้านประกาศว่ามีหมัดเด็ด แต่ก็มีแค่หมัดแย็บ ขี่ม้าเลียบค่ายอยู่ตลอดเวลา และการอภิปรายครั้งนี้ประชาชนจะได้ตัดสินใจว่ารัฐบาลมีปัญหาจริงหรือไม่ ฝ่ายค้าสามารถควบคุมการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ เพราะ 3 ปีกว่ารัฐบาลก็มีผลงาน ฝ่ายค้านย่อมสามารถจับจุดอ่อนของรัฐบาลได้ว่าผิดพลาดตรงไหน ตรงนี้คิดว่าประชาชนจะได้ประโยชน์ เพื่อการตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งหน้า
นายสายัณห์ กล่าวว่า ส่วนที่ฝ่ายค้านตั้งเป้าว่าการอภิปรายครั้งสุดท้ายนี้ ถ้าล้มรัฐมนตรีในสภาฯไม่ได้ก็จะไปลมในสนามเลือกตั้งให้ตายคาบ้าน ตนเห็นว่า ฝ่ายค้านก็พูดไปอย่างนั้น อยากเอาเรื่องที่อภิปรายในสภาแล้วไปขยายผลข้างนอกตามสื่อโซเชียล แต่ความจริงก็คือความจริง รัฐบาลก็มีผลงานอย่างการแก้ไขปัญหาโควิด-19 รัฐบาลก็ภูมิใจ และรัฐบาลต่างชาติก็ให้ความชื่นชมโดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่นายกไปสหรัฐอเมริกา นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก็ขอร้องนายกฯประเทศไทยว่าช่วยฟื้นฟูสหรัฐฯหน่อย นั่นคือความภูมิใจของรัฐบาลเหมือนกัน และเมื่อเช้าตนเห็นข่าวว่า นายกประเทศไทยเป็นนายกฯอันดับ 1 ของโลก ซึ่งตนภาคภูมิใจและจะนำไปชี้แจงในสภาด้วย” นายสายัณห์ กล่าว
นายสายัณห์ กล่าวอีกว่า กรณีที่ฝ่ายค้านขอเวลา 5 วันในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นเพียงพอหรือไม่ นายสายัณห์ กล่าวว่า อยู่ที่ข้อมูล ถ้าฝ่ายค้านอภิปราย 2-3 วันแล้วยังวนอยู่ในอ่างแล้วจะอภิปราย 4-5 วันไปทำไม แต่ถ้าเขามีข้อมูลอธิบาย 5 วันแล้วยังเหลืออีกจำนวนมาก และข้อมูลเป็นของจริงไม่ใช่ของเท็จ ใครก็ห้ามฝ่ายค้านไม่ได้ จะ 6-7 วันก็ยังได้อยู่ แต่ถ้าอภิปราย 3 วันยังพูดของเก่า3 ปีที่แล้ว ก็ยังเหมือนเดิมจะพูดให้เสียเวลาทำไม รัฐบาลจะได้เอาเวลาไปทำงาน
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ฝ่ายรัฐบาลจะถูกมองเป็นตัวป่วน นายสายัณห์ กล่าวว่า การเป็นองครักษ์หรือตัวป่วน ถ้าป่วไม่ดี ไม่มีข้อบังคับ ก็เสียคนเหมือนกัน คนก็ด่า แต่ถ้าฝ่ายตรงข้ามกระทำผิดข้อบังคับหรือข้อกฎหมาย แล้วเราประท้วงประชาชนก็ชื่นชม ดังนั้นจึงอยู่ที่วิธีการประท้วง และคิดว่าการอภิปรายครั้งนี้เป็นการโชว์คุณภาพของฝ่ายค้านและเป็นการโชว์ผลงานของรัฐบาลไปในตัวด้วย จึงอยากให้ประชาชนทั้งประเทศได้ติดตาม อย่ากระพริบตาทั้ง 5 วัน 5 คืน ตนมองว่าการอภิปรายครั้งนี้เป็นการอภิปรายที่มันส์หยด เพราะดูทั้งสองฝ่ายแล้วมีความพร้อมทั้งคู่ ฝ่ายรัฐบาลเองก็พร้อมตอบ ส่วนฝ่ายค้านก็มีข้อมูลจำนวนมาก ดังนั้นการทำหน้าที่องครักษ์ครั้งนี้ถือเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าฝ่ายรัฐบาลตอบดี ถือว่าผ่านสงครามครั้งสุดท้าย หากฝ่ายค้านตอบดี อภิปรายดี ตนก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะลุกขึ้นมาอภิปรายได้ จึงอยากให้ฝ่ายค้านอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ เพื่อรักษาระบบประชาธิปไตยให้ไปต่อได้
“ไม่อยากให้ฝ่ายค้านมาหลอกด่า รัฐบาลนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีเฉยๆ แบบตีหัวเข้าบ้าน ไม่อยากให้มีประเภทตีหัวเสร็จแล้วนั่งลง และการประท้วงจะไม่ใช่นาทีต่อนาที ถ้าเล็กๆน้อยๆก็จะปล่อยไปเพราะผ่านมา 3 ปีแล้ว ส.ส.รัฐบาลก็มีวุฒิภาวะอยู่บ้าง จึงอยากฝากให้ฝ่ายค้านรีบไปหาข้อมูลเยอะๆ อย่าโม้เยอะ หาข้อมูลให้ได้เยอะก่อนค่อยมาพูด ไม่ใช่ข้อมูลเต็มกระเป๋าแต่เปิดออกมาไม่มีอะไร เดี๋ยวจะอายประชาชนทั้งประเทศ”” นายสายัณห์ กล่าว
