“เทพไท” จับโป๊ะ “สันดานกัมพูชา” จัดฉาก-สร้างภาพ-ปั้นเรื่อง ปั่นข่าวทหารไทยยิงพลเรือนเขมร ทั้งที่ไม่เป็นเรื่องจริง หวังสร้างสถานการณ์ยั่วยุให้ไทยตอบโต้ แนะรัฐบาลอย่าชะล่าใจ ควรฉีกหน้ากากความกะล่อนให้สังคมโลกรับรู้
เมื่อวันที่ 14 พ.ย.68 นายเทพไท เสนพงศ์ นักวิเคราะห์การเมือง และอดีต สส.นครศรีธรรมราช แสดงความเห็นเรื่อง “จับโป๊ะรัฐบาลกัมพูชา ประจานต่อประชาคมโลก” มีรายละเอียดว่า…“จากกรณีที่รัฐบาลกัมพูชากระพือข่าวว่า ทหารไทยได้ยิงพลเรือนของประเทศกัมพูชาเสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บ 3-4 คน และพยามสร้างภาพเป็นคลิปข่าว มีการลำเลียงผู้บาดเจ็บ มีการนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ในส่วนของรัฐบาลกัมพูชา ตั้งแต่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรี จนถึงกระทรวงการต่างประเทศ ก็ออกแถลงการณ์ประณามประเทศไทยว่า ทหารไทยได้ใช้ความรุนแรงยิงพลเรือนของฝ่ายกัมพูชา
ซึ่งเรื่องนี้ ฝ่ายไทยก็วิตกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นความจริง แต่ทำไมมีการกระพือข่าว หรือปั่นข่าวกันอย่างเป็นระบบ เผยแพร่อย่าวรวดเร็วต่อเนื่อง จนในที่สุด “โป๊ะแตก” เมื่อหลายฝ่ายเข้าไปสืบค้นและจับผิด จนพบความจริงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็น “การจัดฉาก-การสร้างภาพ-การปั้นเรื่อง” ไม่มีทหารไทยไปทำร้าย ไปยิงพลเรือนของกัมพูชาเลย แต่การที่มีเสียงปืนดังจากฝ่ายกัมพูชา ก็เป็นการพยามที่จะ “สร้างสถานการณ์ยั่วยุ” ให้ฝ่ายไทยตอบโต้และใช้ความรุนแรงต่อฝ่ายพลเรือน ซึ่งทั้งหมดเป็นฝีมือของทหารฝ่ายกัมพูชา แต่ได้เอา “โล่มนุษย์” หรือราษฎรกัมพูชาเป็นเกาะกำบัง
ถ้าหากว่า มีความผิดพลาดขึ้นมาจากการใช้อาวุธของฝ่ายทหารไทย จนทำให้พลเรือนฝ่ายกัมพูชาเสียชีวิต ก็จะใช้โอกาสนี้ประท้วง ประจานและประณามรัฐบาลไทย แม้แต่ยังไม่มีข่าวความเป็นจริงหรือปรากฏการณ์จริงเกิดขึ้นเลย แต่ฝ่ายรัฐบาลกัมพูชาก็ยังหน้าด้าน ยังสร้างภาพยังโกหกแบบหน้าตาย เพื่อให้ประชาคมโลกเข้าใจว่า ประเทศไทยใช้ความรุนแรงต่อประเทศกัมพูชา
ซึ่งเรื่องนี้อยากจะฝากไปยังกระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลไทย อย่าละเลยจงใช้โอกาสนี้ตลบหลัง ฉีกหน้ากากและแฉความกะล่อน ความปลิ้นปล้อน การสร้างภาพ การสร้างละครของรัฐบาลกัมพูชาเพื่อประชาคมโลกเข้าใจและได้รับทราบว่า นี่แหละคือธาตุแท้ คือ “สันดานของกัมพูชา” ถ้าเรายังปล่อยให้ฝ่ายกัมพูชาสร้างกระแสข่าวโฆษณาชวนเชื่อ จนประชาคมโลกคล้อยตาม จะเป็นอันตรายประเทศไทย
ก็ต้องยอมรับความจริงว่า ตอนนี้ประเทศไทยเสียเปรียบ ในเรื่องการสร้างข่าวทางสื่อโซเชียล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างข่าว ซึ่งโดยสปิริตของฝ่ายไทย ไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้อย่างแน่นอน แต่ฝ่ายกัมพูชาไม่ต้องรับผิดชอบอะไร จะโกหกเผยแพร่ข่าวเท็จ ซึ่งไม่ยอมรับความจริง เมื่อถูกจับผิดได้ ก็ไม่รู้สึกว่าเสียหน้าหรือเสียหาย เพราะฉะนั้นรัฐบาลไทยต้องใช้โอกาสนี้ประจานความปลิ้นปล้อน ความตอแหล และการสร้างภาพเท็จ การสร้างข่าวเท็จต่อประชาคมโลก เพื่อทำให้ความน่าเชื่อถือของฝ่ายกัมพูชาที่ตกต่ำอยู่แล้ว ให้ตกต่ำไปกว่านี้อีก
ขอฝากไปยังรัฐบาลไทย อย่าชะล่าใจ อย่ามองเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก ต้องเอาเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นสาระสำคัญ ฉีกหน้ากากเปิดโปงความเป็นประเทศที่กะล่อนให้สังคมโลกรับรู้เสียด้วย”






































