“สุชาติ” เผยกระแสข่าว “สนธยา คุณปลื้ม” ย้ายซบพรรคภูมิใจไทย ยังไม่มีอะไรชัดเจน พร้อมเปิดกว้างทำงานร่วมกัน หากเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ชี้ทุกอย่างต้องพิจารณาจากความถนัดและพื้นที่ฐานเสียงจริง
เมื่อเวลา 08.55 น. วันที่ 14 พ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าวนายสนธยา คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เตรียมย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทย และจะมีการแบ่งพื้นที่ส่งผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี คนละครึ่งจังหวัดหรือไม่นั้น
นายสุชาติระบุว่า เมื่อใกล้ถึงช่วงนับถอยหลังเลือกตั้ง นักการเมืองทุกกลุ่มย่อมมองหาพรรคที่มีความมั่นคงและสามารถนำพาประเทศเดินไปข้างหน้าได้ จึงเป็นเรื่องปกติที่แต่ละคนจะเลือกสังกัดตามความเหมาะสม ส่วนที่จังหวัดชลบุรี ตนไม่เคยยึดติดว่าใครจะดูแลพื้นที่ใด เพราะนักการเมืองไม่ได้รู้จักประชาชนทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง บางคนถนัดเฉพาะอำเภอหรือตำบลใดเป็นพิเศษ
“หากใครมีความรู้ความสามารถ และพร้อมมาทำงานร่วมกันในพรรคเดียวกัน ผมยินดีเสมอ เพราะสุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์คือประชาชน” นายสุชาติกล่าว พร้อมย้ำว่า ขณะนี้ยังไม่มีสิ่งใดเป็นรูปธรรม ทุกฝ่ายสามารถพูดคุยกันได้
เมื่อถูกถามว่าได้มีการพูดคุยกับกลุ่มนายสนธยาหรือยัง นายสุชาติยืนยันว่า เรื่องนี้ควรให้ผู้บริหารพรรค อาทิ หัวหน้าพรรค หรือเลขาธิการพรรค เป็นผู้พิจารณา ตนเป็นเพียงสมาชิกพรรค ไม่ได้มีตำแหน่งบริหาร และไม่มีสิทธิ์มีเสียงในระดับการตัดสินใจเช่นนั้น
ส่วนกระแสข่าวว่าหากพรรคภูมิใจไทยมอบหมายให้นายสนธยาเป็นผู้คุมเลือกตั้งใน จ.ชลบุรี กลุ่มของตนจะยอมรับได้หรือไม่ นายสุชาติตอบว่า ทุกอย่างควรพิจารณาจากความถนัดและพื้นที่ฐานเสียงของแต่ละคน ไม่ใช่การ “อุปโลกน์ตำแหน่ง” เพราะการเมืองต้องมองผลลัพธ์และเสียงตอบรับของประชาชนเป็นหลัก
“ผมอยู่เขตเมืองชลบุรี จะให้ไปดูบางละมุงหรือสัตหีบก็ทำไม่ได้ เพราะไม่รู้จักประชาชนในพื้นที่นั้น” เขากล่าว
สำหรับการประเมินพื้นที่ฐานเสียงของกลุ่มนายสุชาติ เจ้าตัวระบุว่า โซนที่มีความมั่นใจเป็นพิเศษ ได้แก่ อำเภอเมืองชลบุรี พานทอง พนัสนิคม บ้านบึง บ่อทอง หนองใหญ่ และเกาะจันทร์ รวมราว 5 เขต จากทั้งหมด 10 เขต โดยเป็นผู้สมัครเดิมที่เคยทำงานร่วมกับประชาชนมาแล้ว
นายสุชาติยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ที่พรรคจะนัดให้ทั้งสองกลุ่มพูดคุยกันว่า ในส่วนของตนได้แสดงเจตจำนงต่อพรรคไปแล้วว่าเขตใดพร้อมจะทำงานเพื่อประชาชน ส่วนพื้นที่อื่นที่ไม่ได้ถนัดก็ต้องยอมรับความเป็นจริง ไม่ควรเสนอตัวไปควบคุมในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย เพราะอาจไม่สามารถตอบโจทย์ประชาชนได้
“สุดท้ายแล้ว การเมืองต้องดูว่าคนที่ลงไปทำงาน ประชาชนสามารถพึ่งพาได้หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ ก็ไม่ควรฝืน” นายสุชาติกล่าว
