วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS“ทิพานัน”เตือน“พท.”ใช้สูตรแตกแบงค์พันสู้หาร 500 ระวังโทษที่มีถึงขั้นถูกยุบพรรค
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ทิพานัน”เตือน“พท.”ใช้สูตรแตกแบงค์พันสู้หาร 500 ระวังโทษที่มีถึงขั้นถูกยุบพรรค

“ทิพานัน” เตือน “เพื่อไทย” ใช้สูตร “แตกแบงค์พัน” สู้ “หาร 500” ระวังผิด พรป.พรรคการเมือง โทษถึงขั้นยุบพรรค กรรมการบริหารพรรคถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 8 ก.ค.65 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าหลังรัฐสภาใช้สูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อหาร 500 พรรคเพื่อไทยอาจจะตัดสินใจตั้งพรรคครอบครัวเพื่อไทยขึ้นใหม่  เพื่อให้พรรคครอบครัวเพื่อไทยส่งบัญชีรายชื่ออย่างเดียวแล้วพรรคเพื่อไทยส่งเขตอย่างเดียวว่า เป็นความคิดที่แสดงถึงเจตนาที่เข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและบทบัญญัติว่าด้วย พ.ร.ป. พรรคการเมือง 2560 มาตรา 28 

ทั้งนี้ การแตกแบงก์พันเป็นการดำเนินกิจการพรรคการเมืองที่ไม่เป็นไปตามครรลองการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีการยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองขาดความอิสระ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ในการเลือกตั้งปี 2562 พรรคเพื่อไทย เคยสุ่มเสี่ยงส่งผู้สมัคร ส.ส. สลับเขตกันระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคไทยรักษาชาติ แต่ในครั้งนั้นการกระทำของทั้ง 2 พรรคพยายามปฏิเสธถึงความเกี่ยวโยง ครอบงำ ชี้นำซึ่งกันและกัน พยายามทำให้วิธีการแตกแบงก์พันคลุมเครือเพื่อใช้ประโยชน์จากช่องว่างทางกฎหมาย ที่ ณ วันนั้นทั้งสองต่างออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกัน ทั้งนี้ การที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อหน้าสื่อมวลชนว่า ยืนยันพรรคเพื่อไทยไม่รู้สึกหวาดกลัว หลังรัฐสภาใช้สูตรคำนวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ หาร 500 เพราะมีหลายวิธีการ ซึ่งเพื่อไทยอาจจะตัดสินใจตั้งพรรคครอบครัวเพื่อไทยขึ้นใหม่ หรือที่หลายฝ่ายเรียกว่าแตกแบงก์พัน ให้พรรคครอบครัวเพื่อไทยส่งบัญชีรายชื่ออย่างเดียว แล้วพรรคเพื่อไทยส่งเขตอย่างเดียวนั้น การแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ชัดว่าแนวทางพรรคเพื่อไทยกำลังจะขัด พ.ร.ป. พรรคการเมือง 2560 มาตรา 28   ซึ่งหลังจากนี้หากมีการกระทำตามคำพูดดังกล่าวเกิดขึ้นจริงไม่ว่าจะในนามพรรคชื่ออะไร  ก็อาจเป็นการกระทำที่เตรียมตัวสู่การเลือกตั้งที่เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง นพ. ชลน่าน พรรคเพื่อไทย รวมถึงถึงพรรคใหม่ที่จะตั้ง ก็ต้องตระหนักถึงโทษที่มีถึงขั้นถูกยุบพรรค และกรรมการบริหารพรรคจะถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งด้วย ตามมาตรา 92 พ.ร.ป. พรรคการเมือง 2560 

“สิ่งที่สังคมตั้งคำถามในตอนนี้และอยากให้พรรคเพื่อไทยตอบคือ เพราะเหตุใดพรรคเพื่อไทย ไม่ยอมรับกติกาทางประชาธิปไตย ไม่ยอมรับเสียงของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ลงมติในสภาฯ  เพราะเพียงแค่พรรคเพื่อไทยต้องการใช้วิธีเดิมคือเผด็จการทางรัฐสภาเพื่อแก้ไขหรือร่างกฎหมายให้สะดวกต่อการกระทำทุจริตคอร์รัปชัน เช่น กฎหมายนิรโทษกรรมให้นักโทษหนีคดีโกงบ้านโกงเมือง แบบนายทักษิณ ชินวัตร กลับบ้านโดยไม่ยอมรับโทษใช่หรือไม่”

นางสาวทิพานัน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยควรตระหนักถึงคะแนนเสียงของประชาชนทุกเสียง และเปิดโอกาสพรรคเล็กให้ได้มีโอกาสมาทำงานให้ประชาชนกลุ่มที่เลือกพรรคเล็กได้ และหากท่านไม่เคารพมติจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความก็เป็นสิทธิตามกฎหมาย ก็ให้ศาลท่านพิจารณาชี้ขาดได้  แต่สิ่งที่ นพ.ชลน่าน และพรรคเพื่อไทยกระทำคือเที่ยวกล่าวหาฝ่ายบริหาร โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ว่าสั่งการก้าวล่วงไปยังสภานิติบัญญัติ ทั้งที่นายกฯ ไม่เคยสั่งการใดๆ  และในความเป็นจริง นพ.ชลน่าน ควรพิจารณาตามหลักประชาธิปไตย เคารพเสียงมติในสภาฯ  ให้เป็นเรื่องของสภาฯ ไม่เช่นนั้น คำว่าพรรคเพื่อไทยอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ก็จะกลายเป็นแค่เพียงคำพูดลมๆแล้งๆ เชื่อถือไม่ได้

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img