“ศรีสุวรรณ” บุก กกต.นำคลิปชี้เบาะแส หน.พรรคชื่อดังหาเสียงเลือกตั้งซ่อมลำปางมิชอบ
วันที่ 12 ก.ค.65 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นข้อมูลเบาะแสการกระทำที่อาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.2561 ให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อนำไปดำเนินการไต่สวน สอบสวน และเอาผิดผู้ที่กระทำการดังกล่าว ที่อาจทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรมได้ สืบเนื่องจากการที่ได้มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลำปาง เขตเลือกตั้งที่ 4 แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ.2565 ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 10 ก.ค.65 ที่ผ่านมาเป็นวันเลือกตั้งแล้วนั้น
แต่จากการติดตามตรวจสอบการหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้ง และพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในครั้งนี้ พบว่ามีการกระทำอันอาจไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรมในการเลือกตั้งซ่อมดังกล่าว ซึ่งอาจเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 ด้วยวิธีการโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่าง ๆ
เนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ก.ค.65 เวลาประมาณ 17.30-18.30 น. มีหัวหน้าพรรคการเมืองชื่อดังและพวก ได้ไปรณรงค์หาเสียงให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมให้กับผู้สมัครของพรรค ณ ร้านอาหารชื่อดังบริเวณริมแม่น้ำวัง หมู่ 4 ตำบลท่าผา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง โดยได้มีการขึ้นเวทีร้านอาหารดังกล่าวพร้อมกับร่วมกันร้องเพลงที่ชื่อว่า “ศรัทธา” ของศิลปิน หิน เหล็ก ไฟ พร้อมกับชูนิ้วชี้ สัญลักษณ์หมายเลขของผู้สมัครบนเวทีตลอดเวลาที่ร่วมร้องเพลงดังกล่าว เมื่อร้องเพลงดังกล่าวจบลง หัวหน้าพรรคชื่อดังดังกล่าวยังได้แจกบัตรย้ำเบอร์ของผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคฯให้กับนักดนตรีที่ช่วยบรรเลงดังกล่าวด้วย ซึ่งนักดนตรีและเจ้าของร้านอาหารต่างมีทะเบียนบ้านอยู่ในอำเภอเกาะคาทั้งสิ้น
การกระทำหรือการหาเสียงด้วยวิธีการดังกล่าวของหัวหน้าพรรคการเมืองชื่อดังกับพวกในลักษณะเช่นนี้ ครบองค์ประกอบที่อาจเข้าข่ายเป็นการกระทําเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ของพรรคตน ให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ด้วยวิธีการโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่าง ๆ ซึ่งอาจขัดหรือเป็นการฝ่าฝืน ม.73(3) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 ซึ่งหากเป็นความผิดอาจมีบทลงโทษตาม ม.159 ที่บัญญัติว่า “ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 73(3) ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปี”
เพื่อธำรงไว้ซึ่งหการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมตามกฎหมาย สมาคมฯจึงต้องนำพยานหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอทั้งภาพและเสียงจำนวน 2 คลิปมาเป็นข้อมูลเพื่อชี้เบาะแสให้ กกต.ดำเนินการตามอำนาจและหน้าที่ต่อไป