“กมธ.คาสิโน” พิจารณาเสร็จแล้ว จ่อส่ง “ชวน” 27 ก.ค.บรรจุเข้าสภาเห็นชอบต่อ เชื่อเกิดประโยชน์ต่อคนในพื้นที่ รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้ คุมเงินไหลออกนอกประเทศได้
วันที่ 21 ก.ค.65 ที่รัฐสภา น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม และนายวิวรรธน์ นิลวัชรมณี ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษา การเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) การจัดเก็บรายได้ และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย และมาตรการในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย การแพร่ระบาดของตู้เกมพนันไฟฟ้าและการพนันออนไลน์ สภาฯ ร่วมกันแถลงผลการประชุมคณะกมธ.ว่า กรรมาธิการได้พิจารณาศึกษามาตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.64-30 ก.ค.65 ได้ประชุมมาแล้ว 24 ครั้ง พิจารณาศึกษาในรายละเอียดอย่างรอบคอบโดยมีงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง จำนวน 4 ด้านคือด้านกฎหมายการก็บรายได้และภาษี ด้านการป้องกันแก้ไขปัญหากระทบและศึกษาพื้นที่ความเป็นไป ด้านการลงทุนและรูปแบบการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร
ด้านรูปแบบธุรกิจ Gaming สถานบันเทิงแบบครบวงจรไม่ได้หมายถึงแค่กาสิโนเพียงอย่างเดียว ประชาชนบางคนอาจจะเข้าใจผิด แต่หมายถึงอาคารขนาดใหญ่ หรือกลุ่มอาคาร ซึ่งประกอบด้วยห้องหรือส่วนต่าง ๆ สำหรับทำกิจกรรมเพื่อความบันเทิง ความเพลิดเพลิน อาจประกอบด้วยองค์ประกอบหลากหลาย เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ธนาคาร สวนสนุก กาสิโน สนามกีฬา หอประชุมสำหรับการจัดงานแสดงต่าง ๆ
น.ส.ภาดาท์ กล่าวว่า กมธ.ได้มีการเดินทางไปศึกษาดูงานและจัดสัมมนา ที่ จ.ตาก จ.เชียงราย และจ.สระแก้ว ซึ่งจากผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรพบว่า ร้อยละ 80.67 เห็นด้วย ทั้งนี้กมธ.ได้มีการพิจารณา และลงมติเห็นชอบกับรายงาน ฉบับสมบูรณ์เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 20 ก.ค. และภายใน 27 ก.ค. กมธ.จะนำเสนอรายงานพร้อมข้อสังเกตส่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบรรจุระเบียบวาระเข้าสูที่ประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป เชื่อว่าหากสามารถทำได้จะทำให้เกิดประโยชน์อย่างมากมายมหาศาล โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่จะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น เนื่องเกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ นอกจากนี้รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงการแก้ไขปัญหาเงินไหลออกนอกประเทศได้อีกด้วย