“อนุทิน”แจกเก้าอี้รมต.หากลพบุรี กวาด ส.ส.ยกจังหวัด หากจำเป็นพร้อมนั่ง“นายกฯ” เลือกตั้งครั้งนี้ขอ “ 6 รัฐมนตรีว่าการ” เดือน ก.ย.นี้ ประกาศพร้อมเลือกตั้งเกิน100 %
เมื่อวันที่ 7 ส.ค.65 ที่ลานตากพืช สำนักงานขนส่ง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย คณะผู้บริหารพรรคและ ส.ส. กว่า 30 คนได้เดินทางมาเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ลพบุรี 3 เขต จากทั้งหมด 4 เขต ประกอบด้วย น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช จะลงสมัคร เขต 2 นายนรินทร์ คลังผา ลงเขต 3 ซึ่งมีนายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี 8 สมัย บิดาของนายนรินทร์ มาร่วมเวทีด้วย และนายเกียรติ เหลืองขจรวิทย์ จะลงสมัครในเขต 4 ส่วนในเขต 1 ยังไม่เปิดตัว เนื่องจากอยู่ระหว่างคัดเลือกตัวบุคคล โดยนายอนุทินบอกมีเซอร์ไพรส์ แต่ขออุบไว้ก่อน จะกลับมาเปิดตัวอีกครั้ง
นายอนุทิน ขึ้นเวที ขอบคุณที่จังหวัดลพบุรี เลือกส.ส.พรรคภูมิใจไทยมาตลอด และจังหวัดไหนได้ส.ส.ยกจังหวัด จังหวัดนั้นจะได้เป็นรัฐมนตรี เพราะจะสามารถประสานงานได้อีก 1 ระดับ ให้มีความคล่องตัวในการจัดสรรสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้ประชาชน การเลือกตั้งครั้งหน้าจึงขอให้เลือกผู้สมัครของพรรคทั้งหมด หากพรรคได้ส.ส. แบบยกจังหวัด เพื่อการเติบโตก้าวกระโดด แบบจังหวัดบุรีรัมย์ และปราจีนบุรี ก็จะให้เก้าอี้ รัฐมนตรี และไม่ได้หวังได้ ส.ส. ทั้ง 77 จังหวัด ได้ 36 จังหวัด
“วันนี้ไอ้หนู พี่โอ๋ พี่ตุ้ย ขอพี่ๆ ปีหน้า ขอ 4 คนยกจ.ลพบุรีไปเลย พี่น้องจะให้มั้ย ถ้าได้ยกจังหวัดก็ต้องแจกเก้าอี้รัฐมนตรี เที่ยวนี้รัฐมนตรีว่าการของเรา มี 3 เที่ยวหน้าขอ 6 พี่น้องเลือกมาเต็มๆ เลยครับไม่ต้องเกรงใจ เราพร้อมทำงานให้ ถ้าจำเป็นต้องเป็นนายกฯ ก็ต้องเป็นพี่น้องจะได้เรียกนายกฯพี่น้องว่าไอ้หนู ถ้าเรียกท่านอนุทินเมื่อไหร่ลาออกเลยครับ”นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน ยังใช้เวทีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดลพบุรี หยิบยกผลงานของพรรคภูมิใจไทย ที่สามารถผลักดันภารกิจงานความรับผิดชอบได้อย่างประสบผลสำเร็จ ในกระทรวงที่กำกับดูแล โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และมีหลายๆ นโยบายที่นายอนุทินหยิบยก ว่าหากได้กลับมาเป็นรัฐบาล จะดำเนินการ เช่น ค่าตอบแทน อสม. จาก 1,500 เป็น 2,000 บาท รวมถึงพักหนี้ 1 ล้านบาท เป็นเวลา 3 ปี หลังจากที่ต้องประสบกับวิกฤตโควิด-19
ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กล่าวย้ำว่าภูมิใจไทย “พูดแล้วทำ” และสามารถผลักดันนโยบายต่างๆ ได้สำเร็จ ซึ่งเห็นได้ชัดจาด ส.ส. ภูมิใจไทย ในพื้นที่ลพบุรี ทั้งนายเกียรติ ที่ผลักดันจนได้งบ สร้างโรงพยาบาล น.ส.มัลลิกาผลักดันได้งบสร้างถนน ซึ่งเป็นเพราะทั้ง 2 สังกัดพรรครัฐบาลอย่างภูมิใจไทย ที่เป็นพรรคปฏิบัติการพร้อมจะทำ แต่ในเขตอำเภอโคกสำโรง หรือเขต 3 ยังไม่มี ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล จึงยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ซึ่งหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า เดาได้ว่า ภูมิใจไทยต้องได้เป็นรัฐบาล จึงอยู่ที่ประชาชนจะตัดสินว่าจะเลือกใคร ซึ่งพรรคตั้งเป้าให้ได้ ส.ส.ยกจังหวัด ให้มีผู้แทนจากพรรคเดียวกัน ทั้ง จ.อยุธยา จ.สระบุรี และจ.อ่างทอง ซึ่งเป็นจังหวัดใกล้เคียงจ.ลพบุรี ซึ่งจะได้เหมือนกับจ.บุรีรัมย์ ที่สามารถผลักดันและพัฒนาจังหวัดได้ ขณะที่ภูมิใจไทย มีอำนาจต่อรองทางการเมืองบนพื้นฐานประโยชน์ต่อประชาชน
นายศุภชัย ยังกล่าวถึงปัญหาองค์ประชุมสภาล่มโดยยืนยันว่า ส.ส. ของพรรคอยู่ร่วมประชุม และลงมติทุกมาตรา ไม่ใช่เล่ห์ เพทุบายหรือกลวิธีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถ้าเลือกผิดคนผิดพรรคจะเสียเวลา
ผู้สื่อข่าว รายงานว่า เป็นที่สังเกตว่า นายคารม พลพรกลาง ส.ส.ก้าวไกล ที่เคยมาร่วมกิจกรรมทางการเมือง กับภูมิใจไทยได้สวมเสื้อพรรคภูมิใจไทย และขึ้นเวที พร้อม ส.ส.ของภูมิใจไทยคนอื่นๆ และนายอนุทินก็ได้แนะนำนายคารมบนเวทีด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 ของพรรคภูมิใจไทย ที่เตรียมเปิดตัว หลังเดือน ก.ย.นี้ คือนายประทวน สุทธิอำนวยเดช ส.ส.ลพบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ ที่จะย้ายมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย
จากนั้นนายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ถึงการประกาศพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีบน เวทีจ.ลพบุรี เป็นเวทีแรก ว่า เราเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ซึ่งตามประเพณีปฏิบัติของพรรคจะเสนอชื่อหัวหน้าพรรคคนเดียวเป็นแคนดิเดตนายกฯมาตลอด ส่วนที่จะมีความเชื่อมโยงกับเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายก 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่าเป็นการพูดถึงอนาคต และไม่ได้ไปแย่งตำแหน่งใคร แต่ในอนาคตประเทศไทยต้องมีการเลือกตั้ง และพรรคก็คิดถึงประชาชนต้องการเห็นบ้านเมืองสงบสุข ไม่ชอบขัดแย้ง ไม่เชื่อว่าแตกแยกแล้วจะเจริญ ก็มีพรรคภูมิใจไทยยืนหลักอยู่ หากประชาชนหากเห็นความเจริญในทุกมิติไม่ขัดแย้ง พรรคภูมิใจไทยขอเสนอตัว เราไม่ต้องการได้ดิบได้ดีและอยู่ท่ามกลาวความขัดแย้ง ตรงนี้ไม่ใช่แนวทางพรรค ถ้าพรรคมีโอกาสเข้ามาบริหารประเทศ เรื่องความสงบสุข ความเชื่อมั่น ในความเป็นประทศไทย ความสามัคคี ยึดมั่นใจสถาบันพระมหากษัตริย์ ความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ จะเกิดขึ้น
นายอนุทิน กล่าวถึงความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้า 3,200% เกิน 10% โดยพร้อมมานานแล้ว และพร้อมอยู่ตลอดเวลา
นายอนุทิน กล่าวยืนยันว่า พรรคพร้อมสำหรับสุ้ศึกเลือกตั้งทุกกติกา ไม่ว่าจะใช้สูตรคำนวณ ส.ส. หาร 500 หรือหาร 100 ไม่มีปัญหาอะไรก็ได้ ไม่ได้ขัดแย้งตรงนั้น แต่ยังไม่ขอฟันธง ขอรอให้ตกผลึก มีข้อแนะนำแนวทางทางกฎหมายให้ชัดเจนก่อน แต่ตามรัฐธรรมนูญ ตอนนี้คือใช้บัตร2 ใบทั้งนี้ยืนยันว่าพรรคไม่มีส่วนทำให้สภาล่ม เพราะธำรงความศักดิ์สิทธิ์ของสภาไว้ ไม่เป็นส่วนหนึ่งกับความขัดแย้ง